กฎหมายเครื่องสำอาง

หากต้องการสร้างแบรนด์เครื่องสำอางอย่างถูกต้อง และปลอดภัย พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2558 ถือว่าเป็นกฎหมายสำคัญที่เจ้าของแบรนด์ต้องรู้ และปฏิบัติตาม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ถูกต้องตามกฎหมาย บทความนี้ Cosmina จะพามาเจาะลึกถึงข้อกำหนดสำคัญของ พ.ร.บ. ฉบับนี้ เพื่อให้ธุรกิจเครื่องสำอางของคุณดำเนินไปได้อย่างมั่นใจ !

พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 คืออะไร

พ.ร.บ. ฉบับนี้ได้รับการประกาศ และบังคับใช้เพื่อปรับปรุงกฎหมายเครื่องสำอางให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลมากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ประเทศไทยจะใช้พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2535 เป็นกฎหมายหลัก แต่เมื่ออุตสาหกรรมเครื่องสำอางเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศมากขึ้น กฎหมายเดิมจึงไม่สามารถครอบคลุมการกำกับดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยวัตถุประสงค์ของ พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2558 คือ

  1. คุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค
    – ควบคุมให้ผู้ผลิต และผู้นำเข้าเครื่องสำอางต้องแจ้งรายละเอียดผลิตภัณฑ์ต่อ สำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา (อย.) ก่อนวางจำหน่าย
    – กำหนดให้ฉลากเครื่องสำอางต้องมีข้อมูลที่ชัดเจน ครบถ้วน ไม่ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด และป้องกันการใช้สารที่อาจเป็นอันตรายต่อผิวหนัง และสุขภาพ
  1. ควบคุมการโฆษณาให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง
    – ห้ามโฆษณาโดยใช้ข้อความที่เป็นเท็จ หรืออ้างประสิทธิภาพเกินจริง นอกจากนี้ยังห้ามใช้ข้อความที่เข้าข่ายเป็น สรรพคุณทางยา เช่น รักษาสิว รักษาฝ้า
  1. ดูแลกระบวนการผลิต และนำเข้าให้ได้มาตรฐาน
    – โรงงานผลิตเครื่องสำอางต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตเครื่องสำอาง (GMP: Good Manufacturing Practice)
    – ผู้ประกอบการต้องแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับสูตร ส่วนประกอบ และสถานที่ผลิตต่อ อย.
    – ควบคุมการนำเข้าเครื่องสำอางจากต่างประเทศให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย

บทลงโทษหากมีการฝ่าฝืน

บทลงโทษ พรรบ เครื่องสำอาง

พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2558 ได้กำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายไว้อย่างชัดเจน โดยบทลงโทษแบ่งออกเป็นหลายกรณี ดังนี้

  1. หากผลิต หรือนำเข้าเครื่องสำอางที่มีสารต้องห้าม หรืออาจก่อให้เกิดอันตราย โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  2. การผลิต หรือนำเข้าเครื่องสำอางโดยไม่แจ้งรายละเอียดต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา (อย.) โทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท
  3. การโฆษณาที่เป็นเท็จ หรือกล่าวอ้างเกินจริง โทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือหากมีการโฆษณาที่อาจก่อให้เกิดการเข้าใจผิด อาจถูกสั่งให้แก้ไข หรือระงับการโฆษณาทันที
  4. การใช้ฉลากไม่ถูกต้อง หรือฉลากเป็นเท็จ โทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท และอาจถูกสั่งเรียกคืนผลิตภัณฑ์
  5. การไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต (GMP) โทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท และโรงงานที่ผลิตอาจจะเสี่ยงถูกสั่งระงับการผลิต
  6. การจำหน่ายเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัย หรือไม่เป็นไปตามมาตรฐานกฎหมายเครื่องสำอาง โทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท และอาจถูกสั่งเรียกคืนผลิตภัณฑ์ หรือห้ามจำหน่าย

จะเห็นได้ว่า พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2558 ฉบับนี้ออกมาเพื่อยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องสำอางไทย ลดช่องโหว่ของกฎหมายเครื่องสำอางเดิม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในประเทศไทยมีคุณภาพ และสามารถแข่งขันในระดับสากลได้

หากท่านใดที่กำลังวางแผน สร้างแบรนด์ งบน้อย และต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สามารถมาปรึกษา #COSMINA ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!!  เพราะเราเป็นโรงงานรับผลิตครีม เวชสำอาง และสกินแคร์ระดับพรีเมียมที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล พร้อมประสบการณ์มากกว่า 46 ปี มั่นใจได้ว่าไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นด้วยงบมากหรือน้อย เราก็พร้อมช่วยให้แบรนด์ของคุณเติบโตได้อย่างมั่นคง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว