Body Care

เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าเราสามารถนำเซรั่มที่ใช้บนใบหน้ามาทาตัว หรือนำโลชั่นสำหรับผิวกายมาใช้กับผิวหน้าได้หรือไม่ ผลิตภัณฑ์สองประเภทนี้มีความแตกต่างกันอย่างไรทั้งในด้านของส่วนผสม และประสิทธิภาพ บทความนี้จะพามาไขความแตกต่างของ Body Care และ Facial Skincare ที่นอกจากจะช่วยให้ใช้ได้อย่างถูกต้องแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้ผู้ที่สนใจจะสร้างแบรนด์สามารถเลือกใช้บริการจากโรงงานผลิตสกินแคร์ได้อย่างถูกต้อง และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย

จุดเด่นของ Body Care กับ Facial Skincare

ผิวหน้าเป็นส่วนที่บอบบาง และมีความซับซ้อนมากกว่าผิวส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย จึงต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนเป็นพิเศษ มีสารบำรุงที่เข้มข้น และมีโมเลกุลขนาดเล็กที่สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะจุด เช่น ริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือสิว ดังนั้น Facial Skincare จึงมักมีส่วนผสมออกฤทธิ์ (Active Ingredients) ที่มีราคาสูงกว่า เช่น วิตามินซี เรตินอล เปปไทด์ และไฮยาลูรอนิกแอซิดเข้มข้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงจุด และมีประสิทธิภาพสูงสุด

ในทางกลับกัน ผลิตภัณฑ์ Body Care ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อดูแลผิวในพื้นที่ที่กว้างกว่า และมีวัตถุประสงค์หลักคือการให้ความชุ่มชื้น ป้องกันผิวแห้งกร้าน ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และเพิ่มความเนียนนุ่มให้กับผิวทั่วเรือนร่าง ผิวส่วนลำตัวมักจะมีความหนากว่า และมีโอกาสสัมผัสกับปัจจัยภายนอกที่ทำให้ผิวแห้งเสียได้ง่ายกว่าผิวหน้า ดังนั้น ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวกายจึงมักมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นเป็นหลัก เช่น เชียบัตเตอร์ โกโก้บัตเตอร์ น้ำมันจากธรรมชาติ และเซราไมด์บางชนิด

สูตรของ Body Care กับ Facial Skincare ต่างกันยังไงบ้าง ?

สูตร Body Care กับ Facial Skincare ต่างกันด้านไหนบ้าง

ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่างผลิตภัณฑ์ Body Care และ Facial Skincare คือ “สูตร” และ “ส่วนผสม” ที่ถูกออกแบบมาเพื่อลักษณะผิวที่แตกต่างกัน โดยมีรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้

ส่วนผสมออกฤทธิ์ (Active Ingredients)

  • Facial Skincare : มักใช้สารออกฤทธิ์ที่มีราคาสูง และเน้นการแก้ปัญหาเฉพาะจุด เช่น เรตินอยด์สำหรับลดริ้วรอย, วิตามินซีสำหรับความกระจ่างใส, เปปไทด์สำหรับความกระชับ และสารสกัดจากพืชที่มีความเข้มข้นสูงเพื่อการบำรุงที่ล้ำลึก
  • Body Care : มักใช้ส่วนผสมที่เน้นการให้ความชุ่มชื้นและความอ่อนนุ่ม เช่น เซราไมด์ กลีเซอรีน และกรดไขมันจำเป็น นอกจากนี้ยังอาจมีการใช้ส่วนผสมที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน เช่น กรดแลคติกหรือยูเรีย เพื่อให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

ความเข้มข้นของส่วนผสม

  • Facial Skincare : มีความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ที่สูงกว่ามาก เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน และรวดเร็ว
  • Body Care : มีความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ที่น้อยกว่า เพื่อให้สามารถใช้ได้ในปริมาณมาก และครอบคลุมพื้นที่กว้างโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง

เนื้อสัมผัส และการซึมซาบ

  • Facial Skincare : เนื้อสัมผัสมีความบางเบา และซึมซาบเร็ว เพื่อไม่ให้อุดตันรูขุมขน และสามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้
  • Body Care : เนื้อสัมผัสมีความหลากหลาย ตั้งแต่โลชั่นบางเบาไปจนถึงครีมข้นหนืด เพื่อให้ความชุ่มชื้นได้ยาวนาน และมักจะทิ้งความรู้สึกเคลือบผิวไว้เล็กน้อยเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ

การทำความเข้าใจความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ Body Care และ Facial Skincare ทั้งในด้านจุดเด่น และสูตรส่วนผสม เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างแบรนด์สกินแคร์ การใช้ส่วนผสมที่เหมาะกับผิวแต่ละส่วนจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพสูงสุด และปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเลือกโรงงานผลิตสกินแคร์ที่มีความเชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของคุณจะตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง

หากท่านใดที่กำลังวางแผน สร้างแบรนด์ งบน้อย และต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สามารถมาปรึกษา #COSMINA ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!!  เพราะเราเป็นโรงงานรับผลิตครีม เวชสำอาง และสกินแคร์ระดับพรีเมียมที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล พร้อมประสบการณ์มากกว่า 46 ปี มั่นใจได้ว่าไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นด้วยงบมากหรือน้อย เราก็พร้อมช่วยให้แบรนด์ของคุณเติบโตได้อย่างมั่นคง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว