ป้องกันแสงแดด

การผลิตครีมกันแดดไม่ใช่แค่เรื่องของสูตรและประสิทธิภาพ แต่ยังต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการแสดงค่าการป้องกันแสงแดด เช่น SPF และ PA ที่มีมาตรฐานกำกับไว้ชัดเจน ผู้ประกอบการจึงต้องอัปเดตกฎระเบียบล่าสุด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ได้รับการรับรองและสามารถโฆษณาได้อย่างถูกต้อง

ทำความรู้จัก ข้อกำหนดการแสดงค่าป้องกันแสงแดด

ข้อกำหนดนี้มาจากประกาศคณะกรรมการเครื่องสําอาง เรื่องการแสดงค่าความสามารถในการป้องกันแสงแดดของ ผลิตภัณฑ์เครื่องสําอางที่มีสารป้องกันแสงแดด โดยข้อกำหนดนี้ทำขึ้นมาเพื่อควบคุมการแสดงค่าประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์กันแดดให้มีความถูกต้อง ชัดเจน และตรงตามหลักวิทยาศาสตร์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ

  1. ป้องกันการกล่าวอ้างเกินจริง หรือทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด
    ในอดีตมีบางผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีการโฆษณาเกินจริง เช่น กันแดดได้ 24 ชั่วโมง, ป้องกันรังสี UV 100% โดยการกำหนดประสิทธภาพที่ชัดเจนจะทำให้ผู้บริโภคไม่เกิดความเข้าใจผิด หรือใช้งานผิดวิธี
  1. คุ้มครองผู้บริโภคจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ
    ประกาศนี้กำหนดให้การผลิตครีมกันแดดต้องผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน เช่น ISO 24444 สำหรับ SPF และ ISO 24442 สำหรับ UVA Protection ก่อนวางจำหน่าย
  1. เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ไทยในตลาดโลก
    หากผลิตภัณฑ์กันแดดของไทยผ่านการกำกับดูแลตามประกาศนี้ จะช่วยให้สามารถส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากตลาดต่างประเทศมีมาตรฐานที่เข้มงวดเกี่ยวกับการแสดงค่าป้องกันแสงแดด
  2. ลดความเสี่ยงด้านกฎหมายสำหรับผู้ผลิต และผู้โฆษณา
    ช่วยกำหนดขอบเขตให้ชัดเจน ป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมาย และการถูกฟ้องร้อง นอกจากนี้ยังช่วยให้การโฆษณามีมาตรฐานที่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค และกฎหมายโฆษณา

ค่าที่ต้องระบุบนผลิตภัณฑ์ และการแสดงผล

ประกาศคณะกรรมการนี้เกี่ยวกับการแสดงค่าป้องกันแสงแดดมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดมาตรฐานการระบุค่าการปกป้องรังสี UV ให้มีความชัดเจน ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดในการระบุค่า SPF และ PA โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ค่าที่ต้องระบุบนครีมกันแดด

  1. ค่า SPF (Sun Protection Factor) คือค่าที่บอกความสามารถในการป้องกันรังสี UVB ซึ่งมีสิ่งที่ต้องระบุ คือ
    – ต้องระบุค่า SPF เป็นตัวเลขที่ผ่านการทดสอบแล้ว เช่น SPF 15, SPF 30 และค่าสูงสุดที่สามารถระบุได้คือ SPF 50+
    – หากมีค่า SPF ต่ำกว่า 6 ไม่สามารถโฆษณาได้ว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดด
    – ต้องแสดงค่า SPF อยู่ในตำแหน่งที่ชัดเจนบนบรรจุภัณฑ์
  1. ค่า PA (Protection Grade of UVA) คือค่าที่บอกความสามารถในการป้องกันรังสี UVA ซึ่งมีสิ่งที่ต้องระบุ คือ
    – ต้องระบุค่า PA เป็นเครื่องหมาย “+” เช่น PA+, PA++ ขึ้นอยู่กับระดับการป้องกัน หากไม่มีการทดสอบ UVA ห้ามระบุค่า PA บนฉลาก
    – สามารถใช้คำว่า “Broad Spectrum” ได้หากผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพป้องกันทั้ง UVB และ UVA ตามเกณฑ์ที่กำหนด
  1. การใช้คำว่า “Water Resistant” และ “Very Water Resistant”
    – หากต้องการใช้คำ “Water Resistant” หรือ “Very Water Resistant” บนฉลาก การผลิตครีมกันแดดต้องผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน และห้ามใช้คำว่า “Waterproof” หรือ “กันน้ำ 100%” เพราะไม่มีผลิตภัณฑ์ใดที่สามารถกันน้ำได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดได้

การแสดงค่าป้องกันแสงแดดที่ชัดเจน จะช่วยให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลอย่างถูกต้อง และสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ในมุมของผู้ประกอบการที่ผลิตครีมกันแดดออกมาจำหน่าย การปฏิบัติตามข้อกำหนดจะทำให้ผลิตภัณฑ์น่าเชื่อถือ และมีส่วนในเรื่องของยอดขายด้วยเช่นกัน

หากท่านใดที่กำลังวางแผนทำแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเอง สามารถมาปรึกษา #COSMINA ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!! เพราะเราเป็นโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางที่มีมาตรฐาน พร้อมกับมีประสบการณ์มากกว่า 46 ปี ดังนั้นมั่นใจได้ว่าท่านจะได้พบเจอกับคุณภาพ และบริการที่ประทับใจหากได้มาปรึกษากับเรา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว