Private Label คือ

เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ดังหลายแบรนด์ อาจไม่ได้เริ่มต้นจากสูตรเฉพาะของตัวเอง แต่ใช้แนวทาง Private Label คือการเลือกใช้สินค้าสำเร็จรูปจากโรงงาน แล้วนำมาวางแบรนด์ของตัวเอง แนวทางนี้ช่วยให้ประหยัดทั้งเวลา และต้นทุน ช่วยให้แบรนด์ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์  หากใครกำลังสนใจแนวทางนี้ Cosmina จะพาไปทำความเข้าใจให้มากกว่านี้ และเพราะอะไรหลายแบรนด์จึงนิยมใช้ หาคำตอบกันได้เลย !

Private Label คืออะไร มีข้อดีอย่างไร

Private Label คือรูปแบบการผลิตเครื่องสำอาง หรือสกินแคร์โดยโรงงานผู้ผลิตที่มีสูตร หรือผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปอยู่แล้ว และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการหรือเจ้าของแบรนด์นำสินค้านั้นมา ติดแบรนด์ของตัวเอง เพื่อจำหน่ายในชื่อแบรนด์ของตนโดยไม่ต้องเริ่มคิดค้น หรือวิจัยพัฒนาสูตรใหม่ตั้งแต่ต้น ในกรณีของเครื่องสำอาง Private Label คือผู้ที่อยากมีแบรนด์เครื่องสำอางสามารถเลือกสูตรสำเร็จจากโรงงาน เช่น เซรั่ม ครีมกันแดด ลิปบาล์ม โฟมล้างหน้า ฯลฯ แล้วทำการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ติดโลโก้แบรนด์ของตนเอง จากนั้นก็สามารถนำไปจำหน่ายได้เลย โดยข้อดีของการทำเครื่องสำอางแบบ Private Label คือ

Private Label

 

  1. ลดต้นทุนมหาศาลที่มักเกิดจากการวิจัย และพัฒนาสูตร (R&D) การทดสอบความปลอดภัย รวมถึงการขึ้นทะเบียน อย. โรงงานส่วนใหญ่มีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมาตรฐานเหล่านี้ไว้แล้ว ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเริ่มได้ทันที แม้งบเริ่มต้นจะอยู่ในหลักหมื่นบาทเท่านั้น
  2. เมื่อสูตรทุกอย่างพร้อมอยู่แล้ว คุณเพียงแค่เลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับแนวแบรนด์ ออกแบบแพ็กเกจ ติดโลโก้ แล้วสามารถสั่งผลิตเพื่อวางขายได้ทันที ไม่ต้องรอการทดสอบหรือพัฒนาใหม่ ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลาเพียง 15–30 วัน (ขึ้นอยู่กับจำนวนและการออกแบบ)
  3. การพัฒนาสูตรเครื่องสำอางใหม่มีความเสี่ยง เช่น ผลลัพธ์ไม่ตรงตามที่คาด, สูตรไม่เสถียร, เกิดการระคายเคือง ฯลฯ ซึ่งอาจทำให้เสียทั้งเงินและเวลา แต่สูตรของ Private Label นั้นผ่านการทดสอบมาแล้วในระดับหนึ่ง และมักมีข้อมูลผลลัพธ์ที่สามารถใช้ประกอบการตลาดได้ทันที
  4. Private Label มักมีสูตรที่ครอบคลุมหลายปัญหาผิว เช่น รักษาสิว, ลดฝ้า, กันแดด, หน้าใส, ชะลอวัย ฯลฯ เจ้าของแบรนด์สามารถเลือกผลิตภัณฑ์ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้โดยไม่ต้องคิดเยอะกับการพัฒนาตั้งแต่ศูนย์
  5. โรงงานที่เชี่ยวชาญด้าน Private Label มักมีมาตรฐานการผลิตระดับสากล เช่น GMP, ISO, HALAL หรืออย. ทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณดูมืออาชีพ และน่าเชื่อถือมากขึ้น แม้จะเป็นแบรนด์ใหม่ในตลาด

เหตุผลที่หลายแบรนด์เลือกใช้ Private Label

หลายคนอาจเข้าใจว่าแบรนด์ใหญ่ ๆ จะต้องมีโรงงานผลิตเครื่องสำอาง หรือสกินแคร์เอง หรือคิดค้นสูตรเฉพาะเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง แบรนด์เครื่องสำอางหลายแบรนด์เลือกผลิตแบบ Private Label จากโรงงานมาตรฐาน เนื่องจากเหตุผลคือ

  • สำหรับแบรนด์ที่ต้องออกผลิตภัณฑ์ใหม่อยู่เสมอ การพัฒนาสูตรใหม่แต่ละสูตรอาจใช้เวลานานหลายเดือนถึงปี และมีค่าใช้จ่ายสูงมาก (เช่น R&D, Stability Test, Safety Test, etc.) การเลือกใช้ Private Label จึงเป็นทางลัดที่ปลอดภัย และรวดเร็ว เพราะสามารถเลือกจากสูตรที่ผ่านการทดสอบและวางจำหน่ายได้เร็วภายในไม่กี่สัปดาห์
  • แม้แบรนด์จะไม่มีโรงงานของตัวเอง แต่สามารถเลือกโรงงาน Private Label ที่มีมาตรฐานระดับสากล เช่น GMP, ISO, ECOCERT, หรือ Organic Certified ได้ ทำให้แบรนด์ควบคุมคุณภาพสินค้าได้โดยไม่ต้องลงทุนเป็นร้อยล้านในการตั้งโรงงานผลิตเครื่องสำอาง หรือสกินแคร์เอง
  • ในยุคที่ผู้บริโภคมีความต้องการเฉพาะทาง เช่น สกินแคร์สำหรับคนผิวแพ้ง่าย สกินแคร์วีแกน (Vegan) หรือสายธรรมชาติ (Natural Skincare) การพัฒนาสูตรใหม่ทุกครั้งอาจใช้เวลานานเกินไป การเลือกใช้ Private Label ที่มีสูตรเฉพาะอยู่แล้วจึงช่วยให้แบรนด์สามารถออกสินค้าเจาะกลุ่มเฉพาะได้เร็ว และตอบสนองตลาดที่กำลังเติบโตทันเวลา
  • หลายแบรนด์ที่มีผลิตภัณฑ์หลายกลุ่ม เช่น ดูแลผิวหน้า, ผิวกาย, เส้นผม หรือเมคอัพ มักไม่สามารถพัฒนาสูตรเองทุกหมวดหมู่ได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ ดังนั้นจึงเลือกใช้ Private Label สำหรับบางกลุ่มสินค้า (โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ใช่จุดแข็งหลักของแบรนด์) เพื่อประหยัดเวลา และทรัพยากร
  • ใช้เป็นวิธีทดสอบตลาดก่อนตัดสินใจพัฒนาเป็นสูตรเฉพาะ เพราะหากสินค้านั้นไม่ประสบความสำเร็จ แบรนด์จะไม่ต้องสูญเสียต้นทุน R&D และเวลาที่ใช้พัฒนาสูตร

Private Label คือทางลัดสำคัญที่ช่วยให้ทั้งแบรนด์ใหม่ และแบรนด์ใหญ่สามารถออกสินค้าได้เร็ว ควบคุมต้นทุน และตอบโจทย์ตลาดได้ไวขึ้น โดยไม่ต้องเริ่มต้นทุกอย่างจากศูนย์ หากเข้าใจวิธีเลือกโรงงาน และการวางกลยุทธ์อย่างเหมาะสม Private Label ก็สามารถเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้แบรนด์เติบโตได้ดีไม่แพ้กัน

หากท่านใดที่กำลังวางแผนทำแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเอง สามารถมาปรึกษา #COSMINA ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!! เพราะเราเป็นโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางที่มีมาตรฐาน พร้อมกับมีประสบการณ์มากกว่า 46 ปี ดังนั้นมั่นใจได้ว่าท่านจะได้พบเจอกับคุณภาพ และบริการที่ประทับใจหากได้มาปรึกษากับเรา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว