Prejuvinating

ทุกวันนี้การดูแลผิวที่ดีไม่ใช่แค่การตามแก้ปัญหา แต่คือการป้องกันก่อนเกิดปัญหา ผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z จึงหันมาสนใจเทรนด์ความงามเชิงป้องกันอย่าง Prejuvinating มากขึ้น นี่ถือเป็นกลยุทธ์การดูแลผิวแบบใหม่ที่เน้นการรักษาสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ นอกจากนี้ยังเป็นแนวคิดที่โรงงานรับผลิตสกินแคร์ควรทำความเข้าใจเพื่อตอบโจทย์ตลาดแห่งอนาคต !

Prejuvinating แตกต่างจาก Anti-Aging อย่างไร

คือการดูแลผิวที่เน้นการบำรุง และปกป้องผิวตั้งแต่ก่อนที่สัญญาณแห่งวัย (เช่น ริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น หรือความหย่อนคล้อย) จะปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนโดยมักจะเริ่มตั้งแต่อายุ 20 ปลาย ๆ หรือ 30 ต้น ๆ แทนที่จะรอจนถึงช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป ความแตกต่างของ Prejuvinating กับ Anti-aging คือ

  • Anti-aging เป็นแนวคิดแบบตั้งรับ เป้าหมายคือการลดเลือน แก้ไข และฟื้นฟูผิวที่เกิดความเสียหายไปแล้ว เช่น เติมเต็มริ้วรอยลึก ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย และลดเลือนจุดด่างดำที่เกิดขึ้นแล้ว
  • Prejuvinating เป็นแนวคิดแบบป้องกัน เป้าหมายหลักคือการรักษา และปกป้องสุขภาพของเซลล์ผิว DNA และเกราะป้องกันผิวตั้งแต่เนิ่น ๆ จากปัจจัยภายนอกที่จะเข้ามาทำร้าย เช่น แสงแดด มลภาวะ และความเครียด

สารสกัด และเทคโนโลยีที่นิยมใน Prejuvinating Skincare

สารสกัดที่ใช้ต้องเน้นคุณสมบัติในการปกป้อง และเสริมสร้างความยืดหยุ่นของเซลล์ แทนที่จะเน้นการผลัดเซลล์ผิวแบบผลิตภัณฑ์ Anti-aging โดยตัวอย่างสารสกัด และเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้ เช่น

  1. สารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง
    ต้องเป็นสารที่สามารถเข้าถึง และปกป้องโครงสร้างเซลล์ได้ลึกขึ้น เช่น Astaxanthin ที่มีพลังการต้านอนุมูลอิสระเหนือกว่าวิตามินอีหลายเท่า หรือ Ferulic Acid ที่ทำงานร่วมกับวิตามิน C/E เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปกป้องผิวจากรังสี UV และแสงสีฟ้า
  1. สารสื่อสารระดับเซลล์
    การใช้สารสื่อสารในระดับเซลล์ เช่น Peptides ที่ทำหน้าที่ส่งสัญญาณให้เซลล์ผิวสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินอย่างต่อเนื่อง หรือ Growth Factors เพื่อรักษาความสามารถในการซ่อมแซม และฟื้นฟูตัวเองของผิว
  1. สารเสริมความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิว
    สารสำคัญอย่าง Ceramides และ Niacinamide (Vitamin B3) ถูกนำมาใช้เพื่อเสริมความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวทนทานต่อปัจจัยภายนอก และความเครียดได้ดีขึ้น ลดการอักเสบเรื้อรังซึ่งเป็นต้นเหตุของความร่วงโรยก่อนวัย
  1. เทคโนโลยีการนำส่งสาร
    เนื่องจากสารบางชนิดมีความไวต่อการถูกทำลาย โรงงานรับผลิตสกินแคร์จึงควรเลือกใช้เทคโนโลยี Encapsulation (การห่อหุ้มสาร) หรือ Liposomes เพื่อให้สารออกฤทธิ์ยังคงประสิทธิภาพ 100% จนกว่าจะซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวเป้าหมาย

ทิศทางการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์แนว Prejuvinating

การพัฒนาสูตรจำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพ และความเสถียรตามหลักการป้องกัน โดยมีทิศทางดังนี้

  • มุ่งเน้นการปกป้องจาก Exposome : ผลิตภัณฑ์ Prejuvinating ต้องมีคุณสมบัติในการป้องกันความเสียหายจากสิ่งแวดล้อมที่ผู้บริโภคยุคใหม่เผชิญอยู่ เช่น Blue Light Protection และ Anti-Pollution (การป้องกันฝุ่น PM2.5 และมลภาวะ) โดยใช้สาร Polymer หรือสารสกัดที่สร้างฟิล์มป้องกันบนผิว
  • ออกแบบสูตรให้มีความเสถียรสูงสุด : ผลิตภัณฑ์ในอนาคตจะเน้นความเสถียรของสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจอยู่ในรูปแบบ Waterless (ปราศจากน้ำ) หรือ Freeze-dried (ทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง) เพื่อยืดอายุการใช้งาน และคงประสิทธิภาพของสารออกฤทธิ์ให้ยาวนานที่สุด
  • สูตรที่เน้นการทำงานร่วมกัน : สูตรต้องถูกออกแบบมาให้ส่วนผสมต่าง ๆ ทำงานเสริมฤทธิ์กัน ไม่ใช่การรวมส่วนผสมหลายตัวโดยไม่มีความสัมพันธ์กัน การวิจัยจึงเน้นการผสมผสานสารที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันกับสารปกป้องเซลล์เข้าด้วยกัน

ดังนั้น Prejuvinating จึงมุ่งเน้นไปที่การเสริมความแข็งแกร่งของผิวจากภายในสู่ภายนอกเพื่อชะลอกลไกการเสื่อมสภาพตามธรรมชาติของเซลล์ โรงงานรับผลิตสกินแคร์จึงควรศึกษาความแตกต่างนี้ เพื่อนำไปพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เจาะตลาดผู้บริโภคที่ต้องการรักษาความอ่อนเยาว์ และสุขภาพผิวที่ดีในระยะยาว

หากท่านใดที่กำลังวางแผนทำแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเอง สามารถมาปรึกษา #COSMINA ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!! เพราะเราเป็นโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางที่มีมาตรฐาน พร้อมกับมีประสบการณ์มากกว่า 46 ปี ดังนั้นมั่นใจได้ว่าท่านจะได้พบเจอกับคุณภาพ และบริการที่ประทับใจหากได้มาปรึกษากับเรา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว