เทคนิค Shelf-Life Prediction

สารกันเสียในสกินแคร์เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ และพยายามจะหลีกเลี่ยงมากขึ้นในปัจจุบัน นั่นจึงทำให้ผู้ประกอบการต้องมองหาวิธีใหม่ ๆ ในการยืดอายุผลิตภัณฑ์ และหนึ่งในกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้มั่นใจในคุณภาพผลิตภัณฑ์คือ Shelf Life Prediction ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ในการผลิตสกินแคร์ที่มีคุณภาพ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับเทคนิคนี้ พร้อมกับแนะนำ 4 วิธีในการยืดอายุผลิตภัณฑ์โดยไม่ต้องพึ่งสารกันเสีย

Shelf-Life Prediction คืออะไร

คือ กระบวนการคาดการณ์อายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์ ซึ่งหมายถึงช่วงเวลาที่ผลิตภัณฑ์ยังคงมีคุณภาพ และประสิทธิภาพตามที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ กระบวนการนี้ไม่ใช่แค่การเดา แต่เป็นการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้ข้อมูลจากการทดลองในห้องปฏิบัติการเพื่อจำลองสภาวะต่าง ๆ ที่ผลิตภัณฑ์อาจต้องเผชิญในระหว่างการขนส่ง และการเก็บรักษา ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถกำหนดวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์ได้แม่นยำมากขึ้น อีกทั้งการทดสอบนี้ยังมีความสำคัญต่อการ ผลิตสกินแคร์อีกหลายประการ ได้แก่

  • การกำหนดวันหมดอายุที่ถูกต้องแม่นยำจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ยังมีคุณภาพ และปลอดภัย การที่ผลิตภัณฑ์เสียก่อนวันหมดอายุที่ระบุไว้จะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ได้มาก
  • ส่วนผสมออกฤทธิ์บางชนิด เช่น วิตามินซี หรือสารสกัดจากพืชมีความไวต่อแสง อุณหภูมิ และอากาศ การทำ Shelf-Life Prediction จะช่วยให้ผู้ผลิตทราบว่าส่วนผสมเหล่านี้จะคงประสิทธิภาพได้นานเท่าใดภายใต้สภาวะการเก็บรักษาต่าง ๆ และจะทำให้ผู้บริโภคได้รับคุณค่าจากผลิตภัณฑ์อย่างเต็มที่ตลอดอายุการใช้งาน
  • ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถระบุได้ว่าปัจจัยใดบ้างที่อาจทำลายคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เช่น บรรจุภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม หรือส่วนผสมที่ไม่เข้ากัน ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ก่อนที่จะนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดจริง และลดความเสี่ยงที่จะเกิดการเรียกคืนสินค้าจากผู้บริโภค

แนะนำ 4 เทคนิคยืดอายุผลิตภัณฑ์โดยไม่ใช้สารกันเสีย

4 เทคนิค ยืดอายุผลิตภัณฑ์

สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างแบรนด์ที่ปลอดสารกันเสีย การทำ Shelf Life Prediction เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งควบคู่ไปกับการใช้เทคนิคการผลิตที่เหมาะสม ซึ่งมีดังนี้

  1. ใช้บรรจุภัณฑ์สุญญากาศ (Airless Pump)
    บรรจุภัณฑ์แบบ Airless Pump เป็นนวัตกรรมที่ช่วยป้องกันไม่ให้อากาศและสิ่งสกปรกจากภายนอกเข้าไปสัมผัสกับเนื้อผลิตภัณฑ์ ทำให้ส่วนผสมออกฤทธิ์ที่มีความไวต่ออากาศ เช่น วิตามินซี คงประสิทธิภาพได้นานขึ้น และยังช่วยป้องกันการปนเปื้อนจากแบคทีเรียได้ดี
  1. เลือกส่วนผสมที่มีคุณสมบัติเป็นสารกันเสียตามธรรมชาติ
    ปัจจุบันมีสารสกัดจากธรรมชาติหลายชนิดที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ได้ เช่น สารสกัดจากเปลือกส้ม สารสกัดจากใบบัวบก หรือสารสกัดจากชาเขียว การใช้ส่วนผสมเหล่านี้ในการผลิตสกินแคร์จะช่วยยืดอายุผลิตภัณฑ์ได้อย่างปลอดภัย
  1. ควบคุมค่า pH ของผลิตภัณฑ์
    ค่า pH ที่ไม่เหมาะสมสามารถเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียได้ การควบคุมค่า pH ของผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับการใช้กับผิว (ประมาณ 4.5-5.5) ไม่เพียงแต่จะช่วยรักษาเสถียรภาพของผลิตภัณฑ์ แต่ยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ได้อีกด้วย
  1. ใช้สารต้านอนุมูลอิสระ
    สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินอี หรือวิตามินซี สามารถช่วยยืดอายุผลิตภัณฑ์ได้โดยการป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ทำให้ส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เสื่อมสภาพ การใช้สารเหล่านี้ในปริมาณที่เหมาะสมจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีในการรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์โดยไม่ใช้สารกันเสีย

การทำ Shelf Life Prediction ถือว่าเป็นขั้นตอนที่ขาดควรทำในการผลิตสกินแคร์ เพราะจะช่วยให้มั่นใจในคุณภาพ และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ตลอดอายุการใช้งานได้ ที่สำคัญคือจะช่วยตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารกันเสียได้อย่างดี

หากท่านใดที่กำลังวางแผนทำแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเอง สามารถมาปรึกษา #COSMINA ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!! เพราะเราเป็นโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางที่มีมาตรฐาน พร้อมกับมีประสบการณ์มากกว่า 46 ปี ดังนั้นมั่นใจได้ว่าท่านจะได้พบเจอกับคุณภาพ และบริการที่ประทับใจหากได้มาปรึกษากับเรา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว