ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสนใจกับการใช้เวชสำอางมากขึ้น โดยเบื้องหลังความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์เหล่านี้คือมาตรฐานการคัดสรรวัตถุดิบที่เข้มงวด และหนึ่งในมาตรฐานสูงสุดที่ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ควรจะได้รับการรับรองคือต้องตรงตามเกณฑ์ Pharmaceutical Grade แล้วมาตรฐานนี้มีความสำคัญอย่างไรต่อการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ และทำไมโรงงานผลิตเวชสำอางจึงต้องให้ความสำคัญกับมาตรฐานนี้อย่างยิ่ง
Pharmaceutical Grade คืออะไร
Pharmaceutical Grade คือ มาตรฐานการกำหนดคุณภาพวัตถุดิบที่เข้มงวด โดยวัตถุดิบที่อยู่ในระดับนี้จะต้องมีความบริสุทธิ์สูงถึง 99% ขึ้นไป ซึ่งหมายความว่าต้องปราศจากสารปนเปื้อน สารเคมีตกค้าง และเชื้อจุลินทรีย์ในระดับที่ยอมรับได้สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมยา มาตรฐานนี้ถูกควบคุมโดยหน่วยงานด้านสุขภาพของแต่ละประเทศ เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในประเทศไทย หรือ United States Pharmacopeia (USP) ในสหรัฐอเมริกา เพื่อให้มั่นใจว่าวัตถุดิบมีความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้บริโภค
ความสำคัญของ Pharmaceutical Grade คือการสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัย และประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ เนื่องจากเวชสำอางมีจุดประสงค์ในการแก้ปัญหาผิวที่เฉพาะเจาะจง การใช้ส่วนผสมที่บริสุทธิ์สูงจะช่วยให้สารออกฤทธิ์ทำงานได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ มาตรฐานนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอาการแพ้ เพราะสารปนเปื้อนต่าง ๆ ได้ถูกกำจัดออกไปแล้ว การได้การรับรอง Pharmaceutical Grade ในการผลิตจึงเปรียบเสมือนการยกระดับผลิตภัณฑ์ให้เหนือกว่ามาตรฐานทั่วไป และเป็นจุดแข็งสำคัญสำหรับ โรงงานผลิตเวชสำอาง ที่ต้องการสร้างความโดดเด่น และน่าเชื่อถือ
Pharmaceutical Grade เกี่ยวข้องกับการผลิตเวชสำอางอย่างไรบ้าง
เวชสำอาง เป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างเครื่องสำอาง และยา โดยมีคุณสมบัติในการบำรุงผิว และแก้ปัญหาผิวที่ลึกกว่าสกินแคร์ทั่วไป การเลือกใช้วัตถุดิบจึงต้องมีความพิถีพิถันเป็นพิเศษ Pharmaceutical Grade จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกขั้นตอนของการผลิตเวชสำอาง ดังนี้
- ความปลอดภัยของผู้บริโภค : วัตถุดิบ Pharmaceutical Grade ถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดว่ามีความปลอดภัยสูง ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์ที่เน้นการดูแลปัญหาผิวที่บอบบาง เช่น ผิวเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย หรือผิวที่มีริ้วรอย มาตรฐานนี้จึงเป็นหลักประกันได้มากขึ้นว่าผลิตภัณฑ์จะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง หรืออาการแพ้
- ประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ : มาตรฐานที่สูงของวัตถุดิบทำให้ส่วนผสมออกฤทธิ์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากากไม่มีสิ่งปนเปื้อนที่อาจรบกวนการทำงานของสารเหล่านั้น ทำให้ผลิตภัณฑ์เวชสำอางให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และเป็นไปตามที่กล่าวอ้าง
- การปฏิบัติตามกฎระเบียบ : การใช้มาตรฐาน Pharmaceutical Grade ทำให้โรงงานผลิตเวชสำอางสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบ และข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลได้ง่ายมากขึ้น เนื่องจากวัตถุดิบเหล่านี้ได้ผ่านการตรวจสอบมาแล้ว ทำให้กระบวนการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์เป็นไปอย่างราบรื่น
เกณฑ์สำคัญที่ต้องผ่านของ Pharmaceutical Grade
การจะได้รับการรับรอง Pharmaceutical Grade ผลิตภัณฑ์จะต้องผ่านเกณฑ์สำคัญในการตรวจสอบหลายประเภท ดังนี้
- ความบริสุทธิ์ และสารปนเปื้อน
วัตถุดิบต้องสะอาด ไม่มีสารแปลกปลอมเกินค่ามาตรฐาน เช่น โลหะหนัก (ตะกั่ว, ปรอท), สารตัวทำละลายตกค้าง หรือสิ่งที่เกิดจากการเสื่อมสภาพ เพราะของพวกนี้ถึงจะมีเพียงเล็กน้อยก็อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
- ความปลอดภัยด้านจุลชีพ
ต้องตรวจให้แน่ใจว่าไม่มีเชื้อก่อโรค เช่น E. coli หรือ Staphylococcus และปริมาณเชื้อทั่วไปก็ต้องต่ำมาก เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือทำให้สินค้าบูดเสียก่อนเวลา
- คุณสมบัติทางกายภาพ
วัตถุดิบต้องมีลักษณะตรงตามมาตรฐาน เช่น ค่าความเป็นกรด–ด่าง (pH), ความชื้น, สี, กลิ่น, ขนาดอนุภาค ฯลฯ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปออกมาสม่ำเสมอ และไม่เสื่อมสภาพเร็ว
- บรรจุภัณฑ์ และการเก็บรักษาที่ป้องกันการเสื่อมสภาพ
บรรจุภัณฑ์ต้องไม่ปล่อยสารปนเปื้อนออกมา และต้องช่วยปกป้องวัตถุดิบจากแสง ความชื้น หรืออากาศ เช่น ขวดแก้วสีชา ซองอลูมิเนียม หรือขวดพลาสติกชนิดที่ทนสารเคมีได้
- ตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกล็อต
ต้องมีเอกสารรับรองคุณภาพ (Certificate of Analysis) แหล่งที่มา และข้อมูลการผลิตชัดเจน เพื่อให้ทราบว่าของมาจากไหน ใครเป็นผู้ผลิต ผ่านการทดสอบอะไรบ้าง เผื่อมีปัญหาจะได้สืบย้อนกลับไปแก้ไขได้
Pharmaceutical Grade ถือว่าเป็นมาตรฐานสำคัญในการผลิตเวชสำอาง การเลือกใช้บริการจากโรงงานผลิตเวชสำอาง ที่ยึดมั่นในมาตรฐานนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพ และความปลอดภัยเป็นอันดับแรก
หากท่านใดที่กำลังวางแผนทำแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเอง สามารถมาปรึกษา #COSMINA ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!! เพราะเราเป็นโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางที่มีมาตรฐาน พร้อมกับมีประสบการณ์มากกว่า 46 ปี ดังนั้นมั่นใจได้ว่าท่านจะได้พบเจอกับคุณภาพ และบริการที่ประทับใจหากได้มาปรึกษากับเรา