เอกสาร COA

ในกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีคุณภาพสูง การประเมินคุณภาพวัตถุดิบถือเป็นขั้นตอนสำคัญ โดยเอกสาร COA หรือ Certificate of Analysis จะเป็นเอกสารทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้ยืนยันคุณลักษณะของสารสกัด ซึ่งเจ้าของแบรนด์ที่ร่วมพัฒนาสูตรกับโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางควรเข้าใจองค์ประกอบของเอกสารนี้ เพื่อจะช่วยประเมินความน่าเชื่อถือของวัตถุดิบก่อนนำไปใช้จริง

เอกสาร COA จำเป็นต่อการผลิตเครื่องสำอางอย่างไร

เอกสาร COA คือเอกสารรับรองผลการวิเคราะห์คุณภาพของวัตถุดิบ หรือผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ออกโดยห้องปฏิบัติการ (Lab) ของผู้ผลิตวัตถุดิบ หรือผู้จัดจำหน่าย เพื่อแสดงคุณลักษณะสำคัญของสาร เช่น สี กลิ่น ความบริสุทธิ์ และความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ รวมถึงค่าต่าง ๆ ทางจุลชีววิทยา และสารปนเปื้อน ซึ่งมีความสำคัญคือ

  • ช่วยให้โรงงานรับผลิตเครื่องสำอางมั่นใจว่าสารที่นำมาใช้มีคุณภาพตรงตามมาตรฐาน ไม่เจือปน ไม่เสื่อมสภาพ และปลอดภัย
  • ช่วยควบคุมมาตรฐานการผลิต เพราะโรงงานจะใช้ข้อมูลในเอกสาร COA เทียบเคียงกับมาตรฐานที่ตั้งไว้ เช่น หากต้องใช้ Vitamin C 99% แต่สารที่มามีเพียง 80% ก็ไม่สามารถใช้ได้ทันที เพราะจะกระทบต่อประสิทธิภาพของสูตร
  • หากไม่มี COA หรือมี COA ที่ให้ข้อมูลไม่ชัดเจน อาจทำให้ใช้วัตถุดิบผิดประเภทหรือผิดสัดส่วนได้ ซึ่งอาจทำให้สูตรเสีย คุณภาพลดลง หรือเกิดผลข้างเคียง
  •  สำหรับแบรนด์ที่ต้องการจดทะเบียน อย. หรือต้องการส่งออก เอกสาร COA เป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญในการยืนยันความปลอดภัย และคุณภาพ
  •  หากเกิดการร้องเรียน หรือพบข้อผิดพลาดในผลิตภัณฑ์ COA จะช่วยให้ตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าสารนั้นมีปัญหาหรือไม่ตั้งแต่ก่อนผลิต

เอกสาร COA ต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง ?

เอกสาร COA (Certificate of Analysis) จะช่วยยืนยันว่าวัตถุดิบในผลิตภัณฑ์ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์มาตรฐาน โดยข้อมูลใน COA ที่ใช้ในโรงงานรับผลิตเครื่องสำอาง หรือผู้ประกอบการ จะประกอบด้วยหัวข้อหลัก ๆ ดังนี้

เอกสาร COA ต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง

  1. ชื่อสารสกัด (INCI Name หรือ Product Name)
    ชื่อ INCI (International Nomenclature of Cosmetic Ingredients) เป็นชื่อที่ใช้ระบุสารให้ตรงกันในระดับสากล ช่วยป้องกันความสับสนจากชื่อทางการค้า หรือชื่อเฉพาะ เช่น Ascorbic Acid (ชื่อ INCI ของวิตามินซี) หรือ Camellia Sinensis Leaf Extract (สารสกัดชาเขียว) เป็นต้น
  1. ลักษณะภายนอก
    การระบุลักษณะภายนอกมีความสำคัญในขั้นตอนการตรวจสอบเบื้องต้นของวัตถุดิบก่อนใช้งาน เพื่อเทียบเคียงกับค่าที่ COA ระบุไว้ว่าตรงหรือไม่ เช่น ของเหลวใส ไม่มีสี
  1. ความเข้มข้นของสารสำคัญ
    บ่งบอกปริมาณสารสำคัญในวัตถุดิบ เช่น Vitamin C > 99% ยิ่งสาร Active เข้มข้นมาก ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพสูง แต่ต้องใช้ในระดับที่เหมาะสมกับสูตร และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
  1. การทดสอบจุลินทรีย์
    เป็นการตรวจสอบว่าวัตถุดิบไม่มีการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย เช่น Total Plate Count (TPC), Pseudomonas Aeruginosa โดยจุลินทรีย์เหล่านี้ต้องไม่พบในระดับเกินกว่าที่มาตรฐานกำหนด เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
  1. การทดสอบโลหะหนัก
    โลหะหนักอาจตกค้างมาจากกระบวนการเพาะปลูก หรือการผลิต หากเกินค่ามาตรฐาน อาจทำให้เกิดพิษสะสมในร่างกายได้ ดังนั้น ควรมีการตรวจสอบปริมาณโลหะหนักที่อาจตกค้างในสาร เช่น ตะกั่ว ปรอท สารหนู เป็นต้น
  1. ค่าเฉพาะอื่น ๆ (แล้วแต่ประเภทสาร)
    เช่น ค่าความถ่วงจำเพาะ, ความสามารถในการละลาย, pH ของสารละลายน้ำ ค่าเหล่านี้สำคัญสำหรับการคำนวณ และผสมในสูตรให้ได้เนื้อสัมผัส หรือประสิทธิภาพที่ต้องการ
  1. วันผลิต / วันหมดอายุ / เลขล็อต
    ช่วยให้โรงงานสามารถตรวจสอบย้อนหลัง หรือตรวจสอบความสดใหม่ของสารก่อนนำไปใช้ผลิต นอกจากนี้ยังจำเป็นในกรณีที่มีการร้องเรียน เพื่อตรวจสอบย้อนกลับวัตถุดิบล็อตนั้น ๆ

เอกสาร COA ไม่ใช่แค่สิ่งยืนยันว่ามีสารนั้น ๆ อยู่ในวัตถุดิบจริง แต่ยังแสดงให้เห็นว่าสารมีคุณภาพ ปลอดภัย ไม่มีการปนเปื้อน และเหมาะสำหรับใช้ในการผลิตเครื่องสำอาง หรือสกินแคร์ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม หากคุณเป็นเจ้าของแบรนด์ที่ทำงานร่วมกับโรงงานรับผลิตเครื่องสำอาง ควรขอ COA ทุกครั้งที่มีการใช้สารสกัด หรือวัตถุดิบใหม่ เพื่อความมั่นใจในคุณภาพของสินค้า

หากท่านใดที่กำลังวางแผนทำแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเอง สามารถมาปรึกษา #COSMINA ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!! เพราะเราเป็นโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางที่มีมาตรฐาน พร้อมกับมีประสบการณ์มากกว่า 46 ปี ดังนั้นมั่นใจได้ว่าท่านจะได้พบเจอกับคุณภาพ และบริการที่ประทับใจหากได้มาปรึกษากับเรา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว