โมเลกุล Hyaluronic Acid ต่างกันแบบไหน ช่วยบำรุงผิวอย่างไรบ้าง ?
ถ้าหากพูดถึงสารเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวที่เป็นส่วนประกอบหลัก ๆ ในสกินแคร์แล้ว เชื่อว่าสารแรก ๆ ที่หลายคนจะนึกถึงคือ Hyaluronic Acid หรือไฮยาลูรอน สารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาตินั่นเอง
แต่ทราบหรือไม่ว่า สารชนิดนี้นั้นสามารถแบ่งแยกย่อยออกมาได้อีกตาม โมเลกุล Hyaluronic Acid แล้วแต่ละขนาดโมเลกุลจะแตกต่างกันอย่างไร มีส่วนช่วยเรื่องผิวอย่างไรบ้าง มาหาคำตอบกับ Cosmina ในบทความนี้กันได้เลย !
ทำความรู้จัก Hyaluronic Acid
Hyaluronic Acid เป็นสารให้ความชุ่มชื้นธรรมชาติที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นมาเองได้ (Natural Moisturizing Factors) โดยสารนี้จะอยู่ระหว่างเซลล์ใต้ผิว คอยช่วยให้ผิวกักเก็บน้ำได้ดี จึงทำให้ผิวดูอิ่มฟู เรียบเนียนอยู่ตลอด อย่างไรก็ตาม เมื่ออายุของเราเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ Hyaluronic Acid ก็จะค่อย ๆ ลดลง ทำให้ผิวเหี่ยวแห้ง มีริ้วรอยตามมา ดังงนั้น จึงจำเป็นต้องใช้สกินแคร์ที่มีส่วนประกอบของสารชนิดนี้มาบำรุงผิว
แต่นอกจากจะช่วยเรื่องความชุ่มชื้นแล้ว Hyaluronic Acid ยังมีส่วนช่วยเรื่องอื่นเกี่ยวกับผิวอีก ไม่ว่าจะเป็น
- กรองรังสี UV ไม่ให้โดนผิวโดยตรง ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผิวคล้ำ ผิวแห้ง และเกิดริ้วรอยก่อนวัย
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินในชั้นผิวหนังแท้ ทำให้ผิวยังแลดูอ่อนเยาว์
- ลดการสร้างอนุมูลอิสระ และช่วยหล่อลื่นข้อต่อไม่ให้เสียดสีกัน
โมเลกุล Hyaluronic Acid แต่ละประเภทต่างกันอย่างไร
การใช้ Hyaluronic Acid ณ ปัจจุบันนั้นมีการเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิว โดยการใช้โมเลกุลมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ไฮยารูลอนซึมลงชั่นผิวได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น เช่น
- Hyaluronic Acid 8 โมเลกุล
เป็น Hyaluronic Acid โมเลกุลต่ำ และสูงรวมกัน 8 ชนิด โดยผ่านกระบวนการพิเศษที่ทำให้รวมเป็นเนื้อเดียวกันเป็นโมเลกุลเล็ก ๆ โดยจะช่วยบำรุงผิวทั้งเรื่องความชุ่มชื้น กักเก็บน้ำไว้ในผิว ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย และช่วยให้ผิวมีความแข็งแรงมากขึ้น - Hyaluronic Acid 11 โมเลกุล
เป็นนวัตกรรมไฮยารูลอน ที่สามารถซึมลึกเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น และนอกจากนี้ประสิทธิภาพในการบำรุงผิวก็ยังเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน คือ กักเก็บน้ำ และรักษาความชุ่มชื้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ให้ผิวแลดูกระจ่างใส - Hyaluronic Acid 16 โมเลกุล
โมเลกุล Hyaluronic Acid ประเภทนี้มักจะมีส่วนผสมของ Zinc, Vitamin C หรือ Retinol โดยจะช่วยทั้งปรับสมดุลไขมันตามร่องขุมขน เพื่อให้คอลลาเจนสามารถซึมเข้าไปได้ดีขึ้น และนอกจากจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นแล้ว ยังจะช่วยลดการอักเสบของสิว ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง แต่มีข้อควรระวังคือ ไม่ควรใช้กับสตรีมีครรภ์ เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงตามมาได้
หากท่านใดที่กำลังวางแผนผลิตสกินแคร์เป็นของตัวเอง สามารถมาปรึกษา COSMINA ได้ เพราะเราเป็นโรงงานรับผลิตครีม เวชสำอาง และสกินแคร์ระดับพรีเมียมมาตรฐานตามระดับสากลพร้อมมีประสบการณ์มากกว่า 46 ปี ดังนั้นมั่นใจได้ว่าท่านจะได้พบเจอกับคุณภาพ และบริการที่ประทับใจหากได้มาปรึกษากับเรา