Resveratrol คือ

การใช้สารสกัดจากธรรมชาติเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ตอบโจทย์ด้าน Anti-Aging กำลังได้รับความนิยมสูง โดยหนึ่งในสารที่นิยมคงจะเป็นสาร Resveratrol คือ สารต้านอนุมูลอิสระที่มีบทบาทในการปกป้องเซลล์ผิวจากความเสื่อมสภาพ เพราะปัจจุบันโรงงานหลายแห่งเลือกใช้สารชนิดนี้ในการผลิตสกินแคร์ เพื่อยกระดับคุณภาพ และภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ให้ดูพรีเมียม และน่าเชื่อถือ ในบทความนี้ Cosmina จะพามาทำความรู้จักสารนี้ให้มากขึ้นว่ามีความน่าสนใจอย่างไรอีกบ้าง

สาร Resveratrol คืออะไร

คือ สารประกอบโพลีฟีนอล (Polyphenolic Compound) ชนิดหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มสติลบีน (Stilbenes) เป็นสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่พบได้ตามธรรมชาติในพืชหลายชนิด โดยเฉพาะในผิวองุ่นแดง เปลือกของผลไม้บางชนิด เช่น บลูเบอร์รี แครนเบอร์รี ซึ่งคุณสมบัติต่อผิวของ Resveratrol คือ

  1. ต้านอนุมูลอิสระ
    จัดอยู่ในกลุ่ม Polyphenols ซึ่งมีโครงสร้างประกอบด้วยวงแหวนฟีนอล ที่สามารถให้อะตอมไฮโดรเจนหรืออิเล็กตรอนกับ Reactive Oxygen Species (ROS) ได้โดยตรง ซึ่งจะช่วยลดการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ทำลายเยื่อหุ้มเซลล์และ DNA
  1. ชะลอการเสื่อมของเซลล์
    มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นโปรตีน SIRT1 (Sirtuin 1) ซึ่งเป็นกลุ่มของเอนไซม์ Deacetylase ที่มีบทบาทในการควบคุมการอยู่รอดของเซลล์ ซ่อมแซม DNA และยืดอายุของเซลล์
  1. ลดการอักเสบ และการปกป้องผิวจากรังสี UV
    ช่วยยับยั้งการเกิดกระบวนการ Inflammatory Cascade ที่กระตุ้นโดย UV, มลภาวะ หรือ Oxidative Stress อีกทั้งยังลดรอยแดง อาการอักเสบจากสิว ลดการเสียหายจาก UVB-Induced Erythema และ Sunburn ป้องกันการเกิด Photoaging
  2. เสริมการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน
    ช่วยส่งเสริมการสร้าง คอลลาเจนชนิดที่ I และ III ผ่านการเพิ่มการทำงานของ TGF-β (Transforming Growth Factor beta) และยับยั้งเอนไซม์ Matrix Metalloproteinases (MMPs) โดยเฉพาะ MMP-1 ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ทำลายคอลลาเจน

Resveratrol กับการผลิตสกินแคร์

  1. เหตุผลที่นิยมใช้ Resveratrol ในสูตร Anti-Aging
    เป็นสารที่มีคุณสมบัติหลากหลายโดยเฉพาะในการชะลอวัย เพราะมีการสนับสนุนจากงานวิจัยระดับเซลล์, In Vivo และ Clinical Trials โดยการออกฤทธิ์ที่ส่งเสริมการชะลอวัย ได้แก่
    – ปกป้องเซลล์จากความเสียหายของอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของผิวเสื่อม โทรม และริ้วรอย
    – เพิ่มการซ่อมแซมเซลล์ ลดการตายของเซลล์ผิว
    – ป้องกันความหย่อนคล้อย ริ้วรอยลึก และลดความเสียหายจากรังสี UV
  1. รูปแบบที่ใช้ในสูตร
    Resveratrol มีข้อจำกัดด้านความไม่เสถียร และการดูดซึมทางผิวหนังต่ำ จึงต้องใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในสูตรผลิตภัณฑ์ เช่น
    – Encapsulated Resveratrol : ใช้โครงสร้าง Lipid-Based Nanoparticles เพื่อห่อหุ้ม Resveratrol ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเสถียรจากแสง หรือออกซิเจน เพิ่มการดูดซึมผ่านผิว และควบคุมการปลดปล่อยสารออกฤทธิ์อย่างช้า ๆ
    – Liposomal Resveratrol : Resveratrol ถูกกักเก็บในฟองไขมัน (Liposomes) ที่เลียนแบบเยื่อหุ้มเซลล์ เพิ่มความสามารถในการแทรกซึม ลดการระคายเคืองต่อผิวแพ้ง่าย
    – Cyclodextrin Inclusion Complex : การใช้ Cyclodextrin เพื่อสร้าง Complex กับ Resveratrol ช่วยเพิ่มความสามารถในการละลายน้ำ ลดการสลายตัวของโดยปัจจัยภายนอก เหมาะกับสูตรเจล เซรั่มใส หรือสูตรน้ำ
  1. ความเสถียรของ และข้อควรระวังในการใช้ในสูตร
     แม้ Resveratrol จะมีคุณสมบัติหลากหลาย แต่มีข้อจำกัดที่ต้องระวังในกระบวนการผลิตสกินแคร์ ดังนี้
    – สลายตัวได้ง่ายเมื่อสัมผัสแสง UV หรือแม้แต่แสงธรรมดา และยังสลายได้ในอากาศโดยเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน จึงควรใช้บรรจุภัณฑ์ที่ป้องกันแสง และอากาศ
    – pH ที่ไม่เหมาะสม (<5 หรือ >7) จะเร่งการสลาย ดังนั้นต้องควบคุม pH ของสูตรให้อยู่ในช่วง 5.0–6.5
    – ควรเก็บในอุณหภูมิต่ำ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสความชื้นระหว่างการผลิต

Resveratrol กับการผลิตสกินแคร์

ถือได้ว่า Resveratrol คือหนึ่งในสารที่ทรงพลังในสูตร Anti-Aging ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย แต่อย่างไรก็ตาม สารนี้ยังต้องอาศัยเทคโนโลยีการกักเก็บ และการพัฒนาสูตรที่เหมาะสม การผลิตสกินแคร์จึงจะมีเสถียรภาพ และประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น

หากท่านใดที่กำลังวางแผนทำแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเอง สามารถมาปรึกษา #COSMINA ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!! เพราะเราเป็นโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางที่มีมาตรฐาน พร้อมกับมีประสบการณ์มากกว่า 46 ปี ดังนั้นมั่นใจได้ว่าท่านจะได้พบเจอกับคุณภาพ และบริการที่ประทับใจหากได้มาปรึกษากับเรา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว