Packaging Migration Test คือ

การสร้างแบรนด์เครื่องสำอางให้ประสบความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่เรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว เพราะอีกสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือความปลอดภัย และเสถียรภาพของผลิตภัณฑ์ตลอดอายุการใช้งานด้วย นั่นคือเหตุผลที่ทำให้การทดสอบบรรจุภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะกับการทดสอบที่เรียกว่า Packaging Migration Test และในบทความนี้ Cosmina จะพาไปทำความเข้าใจว่า Packaging Migration Test คือ อะไร และการทดสอบนี้มีความสำคัญต่อการรับสร้างแบรนด์เครื่องสำอางอย่างไรบ้าง

Packaging Migration Test คืออะไร

Packaging Migration Test คือ กระบวนการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ที่ออกแบบมาเพื่อตรวจสอบว่ามีสารเคมีจากบรรจุภัณฑ์เคลื่อนย้ายเข้าไปปนเปื้อนในเนื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหรือไม่ เนื่องจากบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติก แก้ว หรือวัสดุอื่น ๆ อาจมีสารเคมีบางชนิด เช่น สารโมโนเมอร์ สารตั้งต้นพลาสติก หรือสารเติมแต่ง (Additives) ที่สามารถละลาย และซึมเข้าไปในเนื้อผลิตภัณฑ์ได้เมื่อเวลาผ่านไป หรือเมื่อผลิตภัณฑ์ต้องเผชิญกับปัจจัยกระตุ้น เช่น ความร้อน แสง หรือความชื้น

สารเคมีที่เคลื่อนย้ายเข้ามาในผลิตภัณฑ์นี้อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในหลายด้าน เช่น ทำให้เนื้อครีมหรือเซรั่มเปลี่ยนสี มีกลิ่นผิดปกติ หรือแย่กว่านั้นคืออาจทำให้ส่วนผสมออกฤทธิ์ (Active Ingredients) เสื่อมสภาพลง ทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร นอกจากนี้ สารเคมีบางชนิดที่เคลื่อนย้ายเข้ามาอาจเป็นอันตรายต่อผิวหนัง หรือก่อให้เกิดอาการแพ้กับผู้ใช้งานได้ จึงเป็นเหตุผลที่การทำ Packaging Migration Test จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการรับสร้างแบรนด์เครื่องสำอางที่ต้องคำนึงถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดี

การทดสอบนี้ช่วยให้ผู้ผลิตมั่นใจได้ว่าบรรจุภัณฑ์ที่เลือกใช้มีความปลอดภัย และไม่ทำปฏิกิริยากับส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ ทำให้คุณภาพของผลิตภัณฑ์คงที่ตลอดอายุการใช้งาน และยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ในระยะยาวด้วย

ประเภทของการทดสอบ Packaging Migration

Packaging Migration Test คือ การทดสอบที่สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ และประเภทของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการตรวจสอบ ดังนี้

  1. Overall Migration Test (OMT)
    เป็นการวัดปริมาณสารทั้งหมด ที่สามารถคลื่อนย้ายจากบรรจุภัณฑ์เข้าสู่ผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นสารใดก็ตาม โดยไม่จำเพาะเจาะจงชนิด มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินว่ามีปริมาณรวมของสารที่แพร่เข้าสู่ผลิตภัณฑ์สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ เช่น ใช้ตัวแทนของผลิตภัณฑ์ เช่น น้ำมันพืช เอทานอล หรือสารละลายกรด-ด่าง เพื่อจำลองการใช้งานจริง จากนั้นแช่ตัวอย่างบรรจุภัณฑ์ในของเหลวดังกล่าวภายใต้อุณหภูมิ หรือเวลาที่กำหนด เช่น 10 วัน ที่ 40°C และนำของเหลวมาวิเคราะห์ว่ามีสารใดละลาย หรือซึมออกมาหรือไม่
  1. Specific Migration Test (SMT)
    การทดสอบการแพร่ของสารเฉพาะเจาะจง เป็นการตรวจหาสารเฉพาะชนิดที่อาจก่อให้เกิดอันตรายเมื่อแพร่จากบรรจุภัณฑ์เข้าสู่ผลิตภัณฑ์ ทดสอบโดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์เฉพาะ เช่น GC-MS (Gas Chromatography – Mass Spectrometry), HPLC ตัวอย่างสารที่นิยมตรวจสอบ เช่น
    – BPA (Bisphenol A) : สารเคมีในพลาสติกบางชนิด เสี่ยงต่อการเป็นสารก่อมะเร็ง
    – Phthalates : สารช่วยให้พลาสติกยืดหยุ่น แต่ส่งผลต่อระบบฮอร์โมน
    – Primary Aromatic Amines (PAA) : จากบรรจุภัณฑ์ที่ใช้วัสดุพอลิเมอร์บางชนิด

ประเภทของ Packaging Migration Test

ตัวอย่างปัญหาจากการไม่ทดสอบ Packaging Migration

หากมองข้ามความสำคัญของ Packaging Migration Test คือ การเปิดรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์ และภาพลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาดังต่อไปนี้

  1. สี กลิ่น หรือคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์เปลี่ยนไป
    – สีเปลี่ยน : บางครั้งผลิตภัณฑ์ เช่น เซรั่ม หรือครีม ที่มีความไวต่อปฏิกิริยาออกซิเดชัน อาจเปลี่ยนสีเมื่อมีการปนเปื้อน เช่น สีเหลืองหม่นลง หรือเกิดจุดสีที่ไม่พึงประสงค์
    – กลิ่นเปลี่ยน:  สารระเหยจากบรรจุภัณฑ์ เช่น กลิ่นพลาสติก กลิ่นหมึก อาจเข้าไปผสมกับกลิ่นของผลิตภัณฑ์จนเกิดเป็นกลิ่นที่ผิดเพี้ยน เช่น กลิ่นหืน กลิ่นเหม็น หรือกลิ่นเคมี
    – เนื้อสัมผัสหรือความเสถียรเปลี่ยน : บางกรณีทำให้เนื้อครีมแยกชั้น การเกิดฟองในเจล หรือความหนืดผิดปกติ ซึ่งเป็นปัญหาด้านคุณภาพ และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
  1. สารก่อมะเร็ง หรือสารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์
    ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ บางวัสดุอาจมีสารเคมีที่ไม่ได้รับอนุญาตให้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์โดยตรง เช่น สารฟอร์มัลดีไฮด์ สารฟทาเลต ซึ่งถ้าไม่มีการทดสอบ Migration อย่างเหมาะสม สารเหล่านี้อาจถ่ายเทเข้าสู่เนื้อผลิตภัณฑ์ และเมื่อถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายผ่านผิวหนัง อาจทำให้ผู้ใช้เกิดการแพ้ ระคายเคือง หรือสะสมในร่างกายจนเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรค เช่น มะเร็ง หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบฮอร์โมน
  1. ผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์
    แม้ว่าตัวผลิตภัณฑ์จะมีคุณภาพดี แต่หากเกิดข้อร้องเรียนจากผู้บริโภคในเรื่องของกลิ่น สี หรือการระคายเคืองจากการใช้ผลิตภัณฑ์ อาจกลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลต่อยอดขายในระยะยาว และยากต่อการเรียกคืนความเชื่อมั่นของลูกค้า

Packaging Migration Test คือ การทดสอบที่จำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เพราะจะช่วยยืนยันความปลอดภัย และรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ตลอดอายุการใช้งาน การเลือกโรงงานรับสร้างแบรนด์เครื่องสำอางที่มีขั้นตอนการทดสอบนี้ะช่วยลดความเสี่ยงให้กับแบรนด์ของคุณได้

หากท่านใดที่กำลังวางแผน สร้างแบรนด์ งบน้อย และต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สามารถมาปรึกษา #COSMINA ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!!  เพราะเราเป็นโรงงานรับผลิตครีม เวชสำอาง และสกินแคร์ระดับพรีเมียมที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล พร้อมประสบการณ์มากกว่า 46 ปี มั่นใจได้ว่าไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นด้วยงบมากหรือน้อย เราก็พร้อมช่วยให้แบรนด์ของคุณเติบโตได้อย่างมั่นคง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว