Alfalfa คือ

เมื่อพูดถึง Retinol หลายคนอาจนึกถึงสารบำรุงผิวที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย และกระตุ้นการผลัดเซลล์ แต่รู้หรือไม่ว่า Retinol ก็มีการสกัดมาจากพืชธรรมชาติด้วยเช่นกัน โดยหนึ่งในนั้นคงจะหนีไม่พ้น Alfalfa คือพืชที่อุดมไปด้วยสารบำรุงผิว ช่วยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์อย่างอ่อนโยน และเป็นธรรมชาติ บทความนี้ Cosmina จะพามาทำความพืชชนิดนี้ให้มากกว่าเดิมว่ามีประโยชน์ต่อผิวอย่างไรบ้าง และแตกต่างจาก Retinol ทั่วไปอย่างไร

Alfalfa คืออะไร และมีคุณค่าต่อผิวอย่างไร ?

Alfalfa คือพืชตระกูลถั่วที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Medicago sativa โดยถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์มานานเพราะว่ามีสารอาหารสำคัญประกอบอยู่มากมายในพืชชนิดนี้ ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน วิตามิน แร่ธาตุต่าง ๆ ด้วยความอุดมไปด้วยสารประโยชน์เช่นนี้ Alfalfa จึงได้รับความสนใจในวงการสกินแคร์ โดยเฉพาะในเรื่องของการช่วยบำรุง และฟื้นฟูผิวอย่างอ่อนโยน ซึ่งสารสำคัญที่ช่วยเรื่องผิวใน Alfalfa คือ

  • Galactomannan คือโครงสร้างโพลิแซ็กคาไรด์ที่ช่วยให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น
  • Flavonoids กลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ผิวจากรังสี UV และมลภาวะ
  • Chlorophyll มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ลดรอยแดง และฟื้นฟูเซลล์ผิว
  •  Vitamin A, C, E, และ K ทำหน้าที่บำรุง และซ่อมแซมผิว โดยเฉพาะวิตามิน A ที่มีโครงสร้างคล้าย Retinol ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว
  • Phytoestrogens มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน และรักษาความยืดหยุ่นของผิว

Alfalfa ทำงานคล้าย Retinol อย่างไร

Alfalfa ทำงานคล้าย Retinol อย่างไร

Alfalfa มีสารสำคัญหลายชนิดที่ส่งผลดีต่อผิวโดยเลียนแบบการทำงานของ Retinol หรือ Vitamin A แต่มีความอ่อนโยนมากกว่า การออกฤทธิ์ของ Alfalfa ต่อผิวสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลไกหลัก ได้แก่

  1. ช่วยผลัดเซลล์ผิว
    เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ผิวแลดูเรียบเนียน ลดการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และช่วยให้สารอาหารซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้ดีขึ้นโดยสาร Vitamin A Derivatives และ Flavonoids ที่มีโครงสร้าง และฤทธิ์คล้ายกับ Retinol
    – Vitamin A Derivatives ใน Alfalfa มีส่วนช่วยกระตุ้น Gene Expression ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ Keratinocyte Proliferation และ Differentiation ทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวที่สมดุล ลดการอุดตันของรูขุมขน และลดเลือนรอยหมองคล้ำ
    – Flavonoids และ Chlorophyll ทำหน้าที่เสริมฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ
  1. ช่วยเสริมคอลลาเจน
    Alfalfa มีส่วนช่วยเสริม  Collagen Type I และ III ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่มีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างผิว ทำให้ผิวแน่นกระชับ ลดเลือนริ้วรอย และช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นขึ้น
    – Vitamin A-like Compounds สามารถกระตุ้น Fibroblast Activity ซึ่งเป็นเซลล์หลักที่สร้างคอลลาเจน
    – Phytoestrogens ใน Alfalfa เช่น Coumestrol และ Isoflavones มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ช่วยเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีนโครงสร้างของผิวและลดการเสื่อมของคอลลาเจนจากอายุที่เพิ่มขึ้น
    – Flavonoids และ Chlorophyll มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ลดการเกิด Oxidative Stress ที่ทำลายเส้นใยคอลลาเจน
  1. สร้างความยืดหยุ่นให้ผิว
    ความยืดหยุ่นของผิวขึ้นอยู่กับสมดุลระหว่าง Collagen, Elastin และ Glycosaminoglycans (GAGs) ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของชั้น Dermis โดยสารสำคัญใน Alfalfa มีผลต่อกระบวนการนี้หลายด้าน
    – Phytoestrogens  มีส่วนช่วยเพิ่ม Elastin ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวสามารถยืดตัว และกลับคืนรูปเดิมได้
    – Flavonoids มีบทบาทสำคัญในการลดการสะสมของเอนไซม์ที่ทำลายโครงสร้างผิว เช่น MMPs (Matrix Metalloproteinases) ที่เป็นปัจจัยหลักในการเสื่อมสภาพของ Collagen และ Elastin
    – Galactomannan Polysaccharides ทำหน้าที่คล้าย Hyaluronic Acid ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวดูอิ่มฟู และเต่งตึงขึ้น

Retinol จาก Alfalfa คือทางเลือกที่ดีในการดูแลผิวที่ให้ผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งช่วยบำรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์ เรียบเนียน และยังช่วยลดการเกิดริ้วรอยด้วยเช่นกัน ที่สำคัญคือเหมาะสำหรับทุกสภาพผิวที่ต้องการการดูแลในระยะยาวให้ผิวสวยสมดุลอย่างเป็นธรรมชาติ

หากท่านใดที่กำลังวางแผนทำแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเอง สามารถมาปรึกษา #COSMINA ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!! เพราะเราเป็นโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางที่มีมาตรฐาน พร้อมกับมีประสบการณ์มากกว่า 46 ปี ดังนั้นมั่นใจได้ว่าท่านจะได้พบเจอกับคุณภาพ และบริการที่ประทับใจหากได้มาปรึกษากับเรา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว