ในตลาดความงามที่เติบโตอย่างรวดเร็ว การสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อาจละเลยได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้บริโภคมุสลิมที่มีข้อกำหนดทางศาสนาในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องหมายรับรอง Halal จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการยืนยันถึงความปลอดภัย และความสะอาดตามหลักศาสนาอิสลาม ทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับ และมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น ในบทความนี้ Cosmina จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่าเครื่องหมาย Halal มีความสำคัญต่อการผลิตเครื่องสำอางอย่างไร และช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดมุสลิมได้มากแค่ไหน
เครื่องหมาย Halal คืออะไร สำคัญอย่างไร ?
Halal เป็นคำในภาษาอาหรับที่แปลว่า “ที่ได้รับอนุญาต” หรือ “ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม” ซึ่งไม่เพียงแต่ใช้ในเรื่องของอาหารเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น เครื่องสำอาง ยา และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคหรือการใช้งานบนร่างกาย
ดังนั้น เครื่องหมาย Halal จึงเป็นสัญลักษณ์ที่ยืนยันว่าผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ปลอดภัย และถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม ไม่ว่าจะเป็นในด้านวัตถุดิบ กระบวนการผลิต หรือการจัดเก็บ โดยการรับรองนี้จะต้องผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานที่ได้รับการรับรองให้ทำหน้าที่ประเมิน และออกใบรับรอง Halal โดยความสำคัญของเครื่องหมายนี้คือ
- สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคมุสลิมว่าผลิตภัณฑ์นี้ไม่มีส่วนผสม หรือกระบวนการผลิตที่ขัดกับหลักศาสนา
- เข้าถึงตลาดขนาดได้ใหญ่ขึ้น เพราะตลาดมุสลิมมีประชากรกว่า 1.9 พันล้านคนทั่วโลก นอกจากนี้บางประเทศมีข้อบังคับว่าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทุกชิ้นที่นำเข้าต้องได้รับการรับรอง Halal เท่านั้น
- การผลิตที่ผ่านมาตรฐาน Halal จะต้องมีการตรวจสอบที่เคร่งครัดในทุกขั้นตอนการผลิต นั่นจึงส่งเสริมให้โรงงานมีระบบจัดการคุณภาพที่ดี ลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อนของวัตถุดิบที่ไม่ได้มาตรฐาน และสารต้องห้าม
ข้อกำหนดในการผลิตเครื่องสำอาง Halal
การผลิตเครื่องสำอางให้ได้เครื่องหมายรับรอง Halal จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เข้มงวดทั้งในด้าน วัตถุดิบ กระบวนการผลิต การจัดเก็บ และการขนส่ง เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นบริสุทธิ์ สะอาด และถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม โดยข้อกำหนดหลักมีดังนี้
- วัตถุดิบ
วัตถุดิบที่ห้ามใช้ (Haram) ตามหลักศาสนาอิสลาม ได้แก่
– สุกร และผลิตภัณฑ์จากสุกร เช่น คอลลาเจนจากหมู ไขมันหมู หรือเจลาตินจากหมู
– แอลกอฮอล์ ที่มาจากการหมักเพื่อการมึนเมา เช่น Ethanol ที่ได้จากการกลั่นเพื่อดื่ม
– เลือด และส่วนประกอบจากสัตว์ที่ไม่ได้เชือดตามหลักการอิสลาม
– สารสกัดจากสัตว์ที่ไม่มีการรับรอง Halal เช่น น้ำมันจากไขสัตว์ที่ไม่ได้มาจากแหล่งที่ได้รับการรับรอง
– วัตถุดิบที่มาจากมนุษย์ เช่น Stem Cells หรือสารสกัดจากรก (Placenta Extract)
นอกจากนี้วัตถุดิบจากสัตว์ต้องมาจากการเชือดตามหลักศาสนาอิสลาม โดยการเชือดต้องดำเนินการจากผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม และต้องเอ่ยนามของพระเจ้าขณะเชือด พร้อมทั้งต้องให้เลือดออกจากตัวสัตว์อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งทุกวัตถุดิบจะต้องสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้อย่างชัดเจน
- กระบวนการผลิต
– เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตต้องไม่มีการปนเปื้อนจากวัตถุดิบที่เป็น Haram หรือ Najis (สิ่งสกปรกตามหลักศาสนา) เช่น เครื่องมือที่ใช้ผลิตต้องไม่เคยสัมผัสกับส่วนประกอบที่ Haram
– โรงงานต้องมีการทำความสะอาด และฆ่าเชื้ออุปกรณ์อย่างเข้มงวด และสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการปนเปื้อน โดยการทำความสะอาดต้องใช้น้ำที่สะอาด ไม่มีสิ่งปนเปื้อน
– ผลิตภัณฑ์ Halal จะต้องถูกผลิตในสายการผลิตที่แยกออกจากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Halal อย่างชัดเจน เพื่อป้องกันการปนเปื้อน ถ้าหากมีการเปลี่ยนสายการผลิตจากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Halal ไปเป็น Halal จะต้องมีการล้างทำความสะอาดเครื่องจักรอย่างละเอียด
- การจัดเก็บ และการขนส่ง
– ผลิตภัณฑ์ Halal จะต้องมีพื้นที่จัดเก็บแยกจากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Halal โดยพื้นที่จัดเก็บต้องสะอาด ปราศจากสิ่งสกปรก และสารปนเปื้อน แต่ถ้าหากจำเป็นต้องมีการจัดเก็บร่วมกัน จะต้องมีการบรรจุที่ปิดสนิท และไม่มีการสัมผัสโดยตรง
– ต้องไม่ขนส่งร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่ Haram หรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับการรับรอง Halal นอกจากนี้ยานพาหนะที่ใช้ขนส่งต้องสะอาด ปลอดจากสิ่งสกปรก และได้รับการตรวจสอบความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ หากต้องขนส่งร่วมกันจะต้องมีการแยกพื้นที่ หรือบรรจุภัณฑ์อย่างปลอดภัย
- การตรวจสอบ และการรับรอง
– โรงงานที่ผลิตจะต้องผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานที่ได้รับการรับรองให้ทำหน้าที่ประเมิน เช่น CICOT (Thailand), JAKIM (Malaysia), MUI (Indonesia) โดยจะมีการสุ่มตรวจวัตถุดิบ กระบวนการผลิต และการจัดเก็บเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนด หากพบการปนเปื้อน หรือไม่เป็นไปตามมาตรฐานจะต้องมีการแก้ไขทันที
– เครื่องหมายรับรอง Halal ไม่ได้ออกให้ถาวร แต่จะต้องมีการต่ออายุเป็นระยะ (โดยปกติคือทุก 1-2 ปี) และต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดทุกครั้งที่ต่ออายุ
- การติดฉลาก
– ผลิตภัณฑ์ที่เครื่องหมายรับรอง Halal จะต้องมีสัญลักษณ์แสดงบนบรรจุภัณฑ์อย่างชัดเจนเพื่อให้ผู้บริโภคตรวจสอบได้ง่าย
– ฉลากต้องระบุข้อมูลที่เข้าใจง่ายสำหรับผู้บริโภค เช่น ประเทศผู้ผลิต หมายเลขการรับรอง Halal และคำเตือนหากมีการใช้วัตถุดิบที่อาจก่อให้เกิดการแพ้
การมีเครื่องหมายรับรอง Halal สำหรับการผลิตเครื่องสำอางไม่เพียงแต่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคมุสลิม แต่ยังเป็นการยกระดับมาตรฐานการผลิตให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลอีกด้วย การทำตามข้อกำหนดที่เคร่งครัดและการตรวจสอบคุณภาพอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ผลิตภัณฑ์มีความน่าเชื่อถือและพร้อมสำหรับการขยายตลาดในกลุ่มประเทศมุสลิมที่กำลังเติบโตรวดเร็วมากขึ้น
หากท่านใดที่กำลังวางแผนทำแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเอง สามารถมาปรึกษา #COSMINA ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!! เพราะเราเป็นโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางที่มีมาตรฐาน พร้อมกับมีประสบการณ์มากกว่า 46 ปี ดังนั้นมั่นใจได้ว่าท่านจะได้พบเจอกับคุณภาพ และบริการที่ประทับใจหากได้มาปรึกษากับเรา