หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ผลลัพธ์ของสกินแคร์เห็นผลได้จริงคือ “สารออกฤทธิ์” ซึ่งเป็นหัวใจหลักที่ทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถตอบโจทย์ปัญหาผิวเฉพาะเจาะจงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการลดสิว ลดริ้วรอย หรือเพิ่มความชุ่มชื้น ถ้าหากคุณกำลังพัฒนาแบรนด์ของตัวเองร่วมมือกับโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางที่เข้าใจการเลือกใช้สารอย่างเหมาะสม ก็ยิ่งจะช่วยยกระดับสูตรให้แตกต่าง และมีคุณภาพเหนือคู่แข่งในตลาดมากขึ้น
สารออกฤทธิ์ คืออะไร
คือสารที่มีหน้าที่เฉพาะในการทำงานกับผิวโดยตรง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในด้านต่าง ๆ ต่อผิว เช่น ลดสิว ลดริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้น ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ หรือฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอ โดยทั่วไปสารนั้นจะต้องมีกลไกการทำงานที่พิสูจน์ได้ว่าให้ผลลัพธ์ต่อผิวหนัง เหตุผลที่สารสำคัญออกฤทธิ์คัญต่อผลลัพธ์ของสกินแคร์คือ สารนั้น ๆ จะทำให้สกินแคร์แต่ละสูตรแตกต่าง และมีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ผลลัพธ์ของสกินแคร์จะเกิดขึ้นหรือไม่ ประสิทธิภาพจะดีเพียงใด มักขึ้นอยู่กับการเลือกสาร และวิธีการใส่ในสูตร เช่น
- ผลลัพธ์ด้านผลัดเซลล์ผิว ควรเลือกสาร AHA/BHA/Retinol
- ผลลัพธ์ด้านยับยั้งเม็ดสีเมลานิน ควรเลือกสาร Niacinamide / Tranexamic Acid
- ผลลัพธ์ด้านต้านอนุมูลอิสระ ควรเลือกสาร Vitamin C / Coenzyme Q10
ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกสารออกฤทธิ์
การเลือกสารอย่างเหมาะสมไม่ใช่แค่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณได้ผลดี แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาในอนาคต โดยมีปัจจัยที่ควรคำนึงดังนี้
- ประสิทธิภาพที่ผ่านการวิจัยรองรับ
การเลือกสารที่มีงานวิจัยรองรับอย่างชัดเจนเป็นปัจจัยสำคัญของสูตรที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการวางตำแหน่งเป็นสกินแคร์ประสิทธิภาพสูง หรือเวชสำอาง มีสิ่งที่ควรพิจารณาเช่น
– มีการระบุขนาดที่ใช้ (Dosage) อย่างชัดเจน เช่น ใช้ Niacinamide ต้อง ≥ 4% ขึ้นไปถึงจะเห็นผล
– มีการทดลองในมนุษย์ (Human Clinical Trial) หรืออย่างน้อย In vitro / Ex vivo
– ผลการทดลองควรระบุสถิติการเปลี่ยนแปลง และระยะเวลาที่เห็นผล
- ความเข้ากันได้ของสูตร
แม้สารที่เลือกมาจะดีแค่ไหน แต่ถ้าหากใส่ลงในสูตรแล้วไม่เสถียรก็อาจจะทำให้หมดประสิทธิภาพก่อนใช้งานจริง หรืออาจเกิดปฏิกิริยาเคมีที่ทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์เปลี่ยนไป โดยมีประเด็นที่ควรตรวจสอบคือ
– pH ที่เหมาะสม เช่น วิตามิน C ในรูป L-Ascorbic Acid ต้องอยู่ในสูตรที่มี pH 3.5 หรือต่ำกว่า
– ปฏิกิริยา Oxidation เนื่องจากสารกลุ่ม Antioxidant มักเสื่อมสภาพเร็ว จึงต้องใส่สารช่วยคงตัว หรือใช้บรรจุภัณฑ์กันแสง
– ความเข้ากันได้กับส่วนประกอบอื่น เช่น กรด AHA ไม่ควรผสมกับ Peptides เพราะจะทำให้เสื่อมสภาพ - ความปลอดภัย และโอกาสในการแพ้
การเลือกสารที่มีประสิทธิภาพสูง และยังอ่อนโยนต่อผิวถือว่าเป็นอีกความท้าทายของนักพัฒนาสูตร โดยเฉพาะแบรนด์ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนผิวแพ้ง่าย หรือผิวเป็นสิว มีข้อควรพิจรณาคือ
– มีข้อมูล Dermatologically Tested หรือ Hypoallergenic
– มีข้อมูลในฐานข้อมูลความปลอดภัย เช่น CIR (Cosmetic Ingredient Review) หรือ EWG
การเลือกสารที่ออกฤทธิ์เหมาะสม ไม่ควรคำนึงแค่เรื่องของการทำให้ผลิตภัณฑ์เห็นผล แต่ยังต้องสะท้อนถึงความใส่ใจในคุณภาพ ความปลอดภัย และความคงตัวของสูตรด้วย การสร้างแบรนด์ร่วมงานกับโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางที่มีทีมวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญ จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของคุณตอบโจทย์ตลาดได้อย่างดี
หากท่านใดที่กำลังวางแผนทำแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเอง สามารถมาปรึกษา #COSMINA ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!! เพราะเราเป็นโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางที่มีมาตรฐาน พร้อมกับมีประสบการณ์มากกว่า 46 ปี ดังนั้นมั่นใจได้ว่าท่านจะได้พบเจอกับคุณภาพ และบริการที่ประทับใจหากได้มาปรึกษากับเรา