สารต้านอนุมูลอิสระ

ทุกวันนี้ “ผิวถูกทำร้ายจากมลภาวะ” กลายเป็นคำที่คุ้นหูในโลกความงาม และหนึ่งในเกราะป้องกันผิวที่สำคัญที่สุดคือ สารต้านอนุมูลอิสระ สารนี้ไม่เพียงช่วยป้องกันความเสื่อมของผิวแต่ยังเป็นหัวใจหลักของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวยุคใหม่ จึงไม่น่าแปลกใจที่โรงงานจำนวนมากให้ความสำคัญกับการใช้สารกลุ่มนี้ในการผลิตสกินแคร์ และในบทความนี้ Cosmina จะพาคุณไปรู้จัก 5 สารต้านอนุมูลอิสระยอดนิยม ที่ทั้งผู้บริโภค และแบรนด์ต่างไว้วางใจ

ทำไมสกินแคร์ต้องใส่สารต้านอนุมูลอิสระ

สารต้านอนุมูลอิสระจะทำหน้าที่เป็นตัวจับ หรือล้างพิษของอนุมูลอิสระก่อนที่มันจะไปทำลายโครงสร้างผิว การทาลงบนผิวจะช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระในสิ่งแวดล้อมได้รวดเร็ว และตรงจุด โดยเหตุผลที่สกินแคร์มักใส่สารต้านอนุมูลอิสระคือ

  • ช่วยลดการเสื่อมของเซลล์ผิว ยับยั้งกระบวนการ Oxidative Stress ซึ่งเป็นตัวการสำคัญของริ้วรอยก่อนวัย
  • ช่วยรักษาความเสถียรของสารอื่น และเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น เร่งการฟื้นฟูผิว หรือช่วยให้สารไวท์เทนนิ่งทำงานดีขึ้น
  • ฟื้นฟู และซ่อมแซมผิวจากความเครียดที่เกิดจากสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่นควัน หน้าจอคอมพิวเตอร์
  • แนวโน้มของผู้บริโภคให้ความสนใจสารต้านอนุมูลอิสระมากขึ้น และมองหาสกินแคร์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยทั้งปกป้อง และฟื้นฟู ซึ่งสารประเภทนี้เป็นหนึ่งคำตอบสำคัญที่โรงงานผลิตสกินแคร์มักแนะนำ

แนะนำสารต้านอนุมูลอิสระในสกินแคร์

สารต้านอนุมูลอิสระในสกินแคร์

การเลือกใช้สารต้านอนุมูลอิสระอย่างเหมาะสมในสูตรไม่เพียงช่วยให้ผลิตภัณฑ์ทำงานได้อย่างล้ำลึก และเห็นผลจริง แต่ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ โดยจะแนะนำ 5 สารคือ

  1. Vitamin C (Ascorbic Acid)
    เป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังที่ช่วยทั้งต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดจากแสงแดด และมลภาวะ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ช่วยให้ผิวกระชับเรียบเนียน ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ นอกจากนี้ยังทำงานได้ดีเมื่อจับคู่กับ Vitamin E และ Ferulic Acid สิ่งที่ควรรู้คือ ควรเลือกใช้อนุพันธ์ของวิตามินซีที่เสถียร (เช่น SAP, MAP หรือ THD Ascorbate) หากต้องการให้อยู่ในสูตรได้นานโดยไม่เสื่อมสภาพ
  1. Vitamin E (Tocopherol)
    สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพของสารอื่น เสริมการทำงานของ Vitamin C ป้องกันการเกิด Lipid Peroxidation ที่ทำลายผิวจากภายใน มีฤทธิ์ลดการอักเสบ ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น และมีคุณสมบัติเป็น Stabilizer ทำให้สูตรครีม หรือเซรั่มเสถียรมากขึ้น นิยมใส่ในสูตรเซรั่มกลางคืน หรือครีมที่ใช้หลังแดด
  1. Ferulic Acid
    ช่วยรักษาเสถียรภาพของสาร Active ที่ไวต่ออุณหภูมิ หรือแสง เสริมการทำงานของ Vitamin C และ E ได้มากกว่า 2 เท่า อีกทั้งยังมีฤทธิ์ลดการอักเสบ และป้องกันการเกิดจุดด่างดำ เหมาะสำหรับสูตร Anti-aging และ Brightening
  1. Coenzyme Q10 (Ubiquinone)
    สารต้านอนุมูลอิสระที่ทำงานในระดับเซลล์ ปกป้อง Mitochondria ในเซลล์ผิวจากการถูกทำลาย กระตุ้นการสร้างพลังงานในเซลล์ผิว ฟื้นฟูผิวที่ดูอ่อนล้า ลดเลือนริ้วรอย และชะลอการเสื่อมของผิว เหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่อายุ 30+ หรือสูตร Anti-aging แต่สารนี้มีสีเหลืองอ่อน และอาจทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสี ดังนั้นต้องควบคุม pH และการบรรจุให้เหมาะสม
  1. Green Tea Extract
    เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่อุดมด้วย Epigallocatechin Gallate (EGCG) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น ลดการอักเสบ รอยแดง ป้องกันการเกิดสิว ปกป้องผิวจากแสงแดด และมลภาวะ เป็นที่นิยมในสูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย หรือสูตรธรรมชาติ

สารต้านอนุมูลอิสระมีบทบาทสำคัญในการลดความเสียหายจากปัจจัยภายนอกต่อผิวหนัง ซึ่งเป็นพื้นฐานของการดูแลผิวในระยะยาว ดังนั้น ในการผลิตสกินแคร์ การเลือกสารเหล่านี้อย่างถูกต้องและเหมาะสมจึงถือเป็นกระบวนการสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เน้นการชะลอวัย และเสริมภูมิต้านทานผิว

หากท่านใดที่กำลังวางแผนทำแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเอง สามารถมาปรึกษา #COSMINA ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!! เพราะเราเป็นโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางที่มีมาตรฐาน พร้อมกับมีประสบการณ์มากกว่า 46 ปี ดังนั้นมั่นใจได้ว่าท่านจะได้พบเจอกับคุณภาพ และบริการที่ประทับใจหากได้มาปรึกษากับเรา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว