การผลิตเวชสำอาง เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยมาตรฐานคุณภาพสูง เนื่องจากผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มุ่งเน้นผลการรักษาหรือบำบัดผิวอย่างมีหลักฐานรองรับ ทั้งด้านส่วนผสม และกระบวนการผลิต นอกจากนี้เอกสารที่เกี่ยวข้องล้วนต้องผ่านเกณฑ์การตรวจสอบที่เข้มงวดอีกด้วย ในบทความนี้ Cosmina จะพามาเจาะลึกมาตรฐานที่จำเป็นที่โรงงานรับผลิตเครื่องสำอางต้องมี เพื่อให้เวชสำอางของคุณได้มาตรฐาน และสร้างความน่าเชื่อถือในสายตาผู้บริโภคได้
ตัวอย่างสารสกัดที่นิยมใช้ในเวชสำอาง
สารสกัดที่มักใส่ในการผลิตเวชสำอาง คือสารที่มีงานวิจัยรองรับทั้งในด้านของประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ช่วยแก้ไขปัญหาผิวอย่างตรงจุด เช่น ลดการอักเสบ ลดสิว ฟื้นฟูผิวแพ้ง่าย สารเหล่านี้มักอยู่ในกลุ่มที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาแต่ยังคงอยู่ในกรอบของเครื่องสำอาง เช่น
- Salicylic Acid ช่วยผลัดเซลล์ผิว ละลายไขมันอุดตันในรูขุมขน ลดการอักเสบของสิว เหมาะกับผิวมัน เป็นสิวง่าย รูขุมขนกว้าง
- Ceramide เสริมชั้นไขมันในผิว ลดการสูญเสียน้ำ ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น เหมาะกับคนผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย หรือคนที่ใช้ยากลุ่มผลัดเซลล์ผิว
- Niacinamide ช่วยลดรอยแดง รอยดำจากสิว ลดการอักเสบ เพิ่มความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิว เป็นสารที่มีงานวิจัยรองรับมาก และอ่อนโยนต่อผิว
ผลิตเวชสำอางต้องเลือกโรงงานผ่านมาตรฐานอะไรบ้าง ?
เวชสำอางอาจไม่ใช่ “ยา” แต่ก็ไม่ใช่เครื่องสำอางทั่วไป ดังนั้นการผลิตจึงต้องมีมาตรฐานสูงกว่าปกติ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ โดยควรผ่านมาตรฐานดังนี้
- GMP (Good Manufacturing Practice)
GMP เป็นมาตรฐานสากลที่ควบคุมกระบวนการผลิตให้สะอาด ปลอดภัย และควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน ซึ่งสำคัญมากสำหรับการผลิตเวชสำอาง เพราะต้องป้องกันการปนเปื้อน และต้องมีความสม่ำเสมอของคุณภาพในทุกล็อตการผลิต
- ISO 22716
มาตรฐานระดับสากลที่เน้นการควบคุมคุณภาพแบบละเอียด และมีระบบจัดเก็บข้อมูลเพื่อการตรวจสอบย้อนหลัง ในเวชสำอาง การสืบย้อนกลับได้ว่าใช้สารสกัดจากแหล่งใด ผลิตเมื่อไร ใครเป็นผู้ควบคุมคุณภาพ จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่มีผิวบอบบาง หรือมีปัญหาผิวเฉพาะทาง
- อย. (FDA – Food and Drug Administration ของไทย)
แม้เวชสำอางจะไม่ใช่ “ยา” แต่ก็อยู่ในหมวดที่ควบคุมโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา (อย.) อย่างเข้มงวด เพราะมักมีการอ้างสรรพคุณด้านผิวหนัง เช่น ลดรอยดำ สิว ฝ้า กระ ดังนั้น ผลิตภัณฑ์เวชสำอางทุกตัวต้องผ่านการจดแจ้งกับ อย. เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีสารต้องห้าม และแสดงฉลาก/โฆษณาอย่างถูกต้อง
- ASEAN Cosmetic Directive (ACD)
ACD คือมาตรฐานกลางของอาเซียนที่ใช้ควบคุมเครื่องสำอางรวมถึงเวชสำอาง เพื่อให้สามารถค้าขายกันระหว่างประเทศสมาชิกได้ง่ายขึ้น เพราะการผลิตเวชสำอางที่ต้องการส่งออก เช่น ไปลาว เวียดนาม มาเลเซีย ต้องเป็นไปตามกฎของ ACD โดยจะครอบคลุมตั้งแต่เรื่องความปลอดภัยของสาร ความถูกต้องของฉลาก และความรับผิดชอบของเจ้าของแบรนด์
- ISO 9001 / ISO 14001 / ISO 45001 (อาจไม่บังคับ แต่เสริมความเชื่อมั่น)
หากโรงงานผลิตเวชสำอางมีมาตรฐานเหล่านี้ครบ จะยิ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ และทำให้แบรนด์สามารถโตระดับอุตสาหกรรมได้เร็วขึ้น
– ISO 9001 ระบบบริหารคุณภาพโดยรวมขององค์กร
– ISO 14001 ระบบจัดการสิ่งแวดล้อม (โรงงานรักษ์โลก)
– ISO 45001 ความปลอดภัยในการทำงาน (เหมาะกับโรงงานขนาดใหญ่)
การผลิตเวชสำอางให้ได้คุณภาพ และความปลอดภัย จำเป็นต้องอยู่ภายใต้มาตรฐานการผลิตที่เข้มงวด ทั้ง GMP, ISO ไปจนถึงมาตรฐานเฉพาะกลุ่ม ดังนั้นจึงควรเลือกโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่มีใบรับรองครบถ้วน เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกเรียกเก็บสินค้า หรือถูกฟ้องร้องจากผู้บริโภค และสร้างความมั่นคงให้แบรนด์ในระยะยาว
หากท่านใดที่กำลังวางแผนทำแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเอง สามารถมาปรึกษา #COSMINA ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!! เพราะเราเป็นโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางที่มีมาตรฐาน พร้อมกับมีประสบการณ์มากกว่า 46 ปี ดังนั้นมั่นใจได้ว่าท่านจะได้พบเจอกับคุณภาพ และบริการที่ประทับใจหากได้มาปรึกษากับเรา