เมื่อลงทุนผลิตครีม นอกจากคุณภาพของสูตร และบรรจุภัณฑ์แล้ว วิธีเก็บรักษาก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยยืดอายุผลิตภัณฑ์ และคงประสิทธิภาพไว้ได้ยาวนาน หากจัดเก็บไม่เหมาะสม อาจทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสภาพหรือเสื่อมคุณภาพเร็วกว่าที่ควร เพราะอย่างนั้น Cosmina จึงจะมาแนะนำทางการเก็บรักษาที่ถูกต้อง มาดูกัน !
ปัจจัยที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานครีม
เมื่อผลิตครีม และมีการเก็บรักษาอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยรักษาคุณภาพ และประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ให้ยาวนานขึ้น ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของครีมมีดังนี้
- แสง และอุณหภูมิ
สารออกฤทธิ์หลายชนิดในครีมไวต่อแสงแดด ความร้อน และออกซิเจนในอากาศ ซึ่งอาจทำให้สารเหล่านี้เสื่อมสภาพ และลดประสิทธิภาพลง เช่น วิตามิน C, เรตินอล, ไนอะซินาไมด์ เป็นต้น
- ค่า pH และความเสถียรของสูตร
ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) มีผลต่อความเสถียรของผลิตภัณฑ์ หากค่า pH เปลี่ยนไป อาจทำให้สารออกฤทธิ์เสื่อมประสิทธิภาพ หรือเกิดการระคายเคืองต่อผิวได้
- การปนเปื้อนของแบคทีเรีย และเชื้อรา
แม้ว่าการผลิตครีมจะมีสารกันเสีย แต่หากใช้ผิดวิธีก็อาจเกิดการปนเปื้อนจากเชื้อโรคได้ เช่น การเก็บไว้ในห้องน้ำที่มีความชื้นสูงอาจทำให้เกิดเชื้อรา และแบคทีเรีย
วิธีเก็บรักษาครีมให้คงคุณภาพก่อนวางขาย
การเก็บรักษาก่อนวางขายเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยคงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และป้องกันการเสื่อมสภาพก่อนถึงมือลูกค้า โดยการจัดเก็บที่เหมาะสมคือ
- เก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม (ส่วนใหญ่ที่ 15-25°C) ควรใช้ระบบควบคุมอุณหภูมิในคลังสินค้าเพื่อป้องกันความร้อนสะสม หลีกเลี่ยงการวางสินค้าใกล้แหล่งความร้อน
- เลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติป้องกันแสง และอากาศ นอกจากนี้ควรใช้ระบบซีลสุญญากาศในขั้นตอนการบรรจุ เพื่อลดการสัมผัสออกซิเจน
- ใช้ระบบควบคุมความชื้นภายในคลังสินค้า และห้องผลิต โดยระดับความชื้นในพื้นที่จัดเก็บไม่ควรเกิน 50-60% ตรวจสอบผลิตภัณฑ์เป็นระยะว่ามีสัญญาณของการปนเปื้อน เช่น การเปลี่ยนสี กลิ่น หรือเนื้อสัมผัส
การทดสอบความเสถียรของผลิตภัณฑ์ก่อนจำหน่าย
เป็นกระบวนการสำคัญที่ใช้ตรวจสอบว่าการผลิตครีมสามารถคงคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยได้ภายใต้สภาวะต่าง ๆ โดยการทดสอบความเสถียรของครีมสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น
- การทดสอบความเสถียรในสภาวะเร่ง (Accelerated Stability Testing)
เป็นการจำลองสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น อุณหภูมิสูง ความชื้นสูง หรือการสัมผัสแสง เพื่อดูว่าผลิตภัณฑ์สามารถทนต่อสภาวะที่เปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ การทดสอบนี้ใช้เวลาประมาณ 1-6 เดือน แต่สามารถให้ข้อมูลได้ว่าอายุการเก็บรักษา (Shelf life) ควรอยู่ที่เท่าไร
- การทดสอบความเสถียรในสภาวะปกติ (Real-Time Stability Testing)
การทดสอบนี้ทำในสภาวะที่ผลิตภัณฑ์จะถูกเก็บจริง ๆ เพื่อให้ทราบอายุการใช้งานที่แท้จริงของผลิตภัณฑ์ เช่น เก็บที่อุณหภูมิห้อง (25°C) เป็นเวลา 12-24 เดือน ข้อดีของการทดสอบนี้คือการให้ข้อมูลที่แม่นยำเกี่ยวกับอายุการใช้งานจริงของผลิตภัณฑ์
- การทดสอบความเข้ากันได้ของบรรจุภัณฑ์ (Packaging Compatibility Testing)
เป็นการตรวจสอบเพื่อดูว่าเนื้อผลิตภัณฑ์สามารถอยู่ร่วมกับบรรจุภัณฑ์ได้โดยไม่มีปฏิกิริยาเคมีที่ส่งผลเสีย และป้องกันปัญหาการรั่วซึม หรือการเสื่อมสภาพของผลิตภัณฑ์จากการสัมผัสกับบรรจุภัณฑ์
- การทดสอบการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ (Microbial Testing)
ผลิตภัณฑ์ครีมเกือบทุกประเภทล้วนมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ การทดสอบที่ใช้ เช่น Total Plate Count (TPC) ตรวจสอบปริมาณแบคทีเรียรวมในผลิตภัณฑ์ หรือจะเป็น Yeast and Mold Count : ตรวจสอบการปนเปื้อนของเชื้อรา เพื่อลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้
หากต้องการผลิตครีม ควรรู้วิธีเก็บรักษาครีมให้ถูกวิธี เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยรักษาคุณภาพ และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ก่อนวางขาย ผู้ผลิตควรคำนึงถึงอุณหภูมิ แสง ความชื้น และบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงของการเสื่อมสภาพ และยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ให้ยาวนานยิ่งขึ้น
หากท่านใดที่กำลังวางแผนผลิตสกินแคร์เป็นของตัวเอง สามารถมาปรึกษา #COSMINA ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!! เพราะเราเป็นโรงงานรับผลิตครีม เวชสำอาง และสกินแคร์ระดับพรีเมียมมาตรฐานตามระดับสากลพร้อมมีประสบการณ์มากกว่า 46 ปี ดังนั้นมั่นใจได้ว่าท่านจะได้พบเจอกับคุณภาพ และบริการที่ประทับใจหากได้มาปรึกษากับเรา